หน้าแรก » 🇹🇭 Ojo – โอโฮ
Visit: August 26, 2022
🇹🇭 Ojo - โอโฮ
👨🏻🍳 Chef Francisco Paco Ruano - เชฟฟรานซิสโก ปาโก รูอาโน
114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Tel: 02-085-8888

Cuisine
🍴 Mexican - อาหารเม็กซิโก
Country
Thailand
MICHELIN Guide
None
Score
13/20
Price
ในวันนี้เราขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปพบกับร้านที่กำลังอยู่ในเทรนด์จนมีคิวจองเต็มไปนานกว่า 1 เดือนนั่นก็คือ Ojo (อ่านว่าโอโฮ) ห้องอาหาร Mexican ประจำโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่เพิ่งมาเปิดสาขาในบ้านเราเป็นครั้งแรกนั่นเอง ตัวร้านมีชื่อแปลตรงตัวว่าดวงตาโดยมีจุดเด่นคือตำแหน่งที่ตั้งอยู่สูงถึงชั้น 76 ของตึก King Power Mahanakhon สำหรับใครที่แวะมาในช่วงกลางวันสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพมุมกว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตาหรือใครที่แวะมาในช่วงเย็นก็สามารถรับชมพระอาทิตย์ตกดินและแสงสีของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนได้อีกด้วย ภายในห้องอาหารตกแต่งให้มีความหรูหราร่วมสมัยโดยใช้สีชมพูสลับกันกับสีทอง ผนังทุกฝั่งกั้นด้วยกระจกใสบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์บาร์สำหรับชงเครื่องดื่มรายล้อมด้วยโต๊ะอาหารหินอ่อนพร้อมกับเก้าอี้หมุนและโซฟาขนาดใหญ่ ห้ามพลาดจองที่นั่งริมหน้าต่างหรือจะขึ้นไปนั่งบนชั้นลอยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็ยังได้ หลังจบมื้ออาหารอย่าลืมแวะขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าเพื่อเยี่ยมชม Mahanakhon SkyWalk กันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย
ส่วนพระเอกของเราอย่างอาหาร Mexican นั้นทางร้านได้คว้าตัวเชฟ Francisco Paco Ruano หรือเชฟ Paco เจ้าของห้องอาหารชื่อดัง Alcalde ในนคร Guadalajara มาเป็นผู้คิดค้นเมนูทั้งยังมอบหมายให้เชฟ Alonso Luna Zarate มาคอยควบคุมในห้องครัวอีกด้วยโดยในวันนี้มีจานที่น่าสนใจมากมายอย่างเช่น
OJO GUACAMOLE (480++)
Crab meat, ikura, corn tostadas, prawn oil
ห้ามพลาดจานที่รังสรรค์ออกมาได้ดีที่สุดของมื้อนี้อย่าง Guacamole เครื่องจิ้มสไตล์ Mexican ที่ทำมาจาก Mashed Avocado หอมมันเพิ่มรสชาติด้วยความหวานจากเนื้อปูและความกรอบของไข่ปลาแซลมอน แนะนำให้รับประทานคู่กันกับ Corn Tostadas กรอบ ๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี



Price :
1,000-3,000 THB/p
Parking :
จอดรถที่โรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon
Operating Time :
11.30-14.30 และ 17.30-23.30
Dress Code :
Smart Casual
Score
👍 ห้องอาหาร Mexican บนตึกระฟ้าโดดเด่นด้วยทัศนียภาพมุมกว้างของกรุงเทพมหานคร
อาหาร :
13
ราคา :
เทคนิค :
อัตลักษณ์ :
บรรยากาศ :
บริการ :
ไวน์ :
Map
📃 À LACARTE
Crab meat, ikura, corn tostadas, prawn oil
Heirloom tomato, fermented chili mayonnaise, salted lemon
Avocado, baby onions, green chili, fennel, black olive emulsion
Roasted baby corn, pecorino, jalapeño mayonnaise, macadamia
Tortillas, khao khua brulee, burnt salsa, chiles toreados
Grilled fish, avocado, cucumber, chili & coriander adobo
Beef short rib slow-cooked in Jalisco adobo, burnt baby onions, fermented chili sauce
Vanilla creamy rice, cinnamon ice cream, toasted white chocolate, sugar brulée, soy milk flakes
Dulce de leche ice cream, caramelized banana





OJO GUACAMOLE (480++)
Crab meat, ikura, corn tostadas, prawn oil
ห้ามพลาดจานที่รังสรรค์ออกมาได้ดีที่สุดของมื้อนี้อย่าง Guacamole เครื่องจิ้มสไตล์ Mexican ที่ทำมาจาก Mashed Avocado หอมมันเพิ่มรสชาติด้วยความหวานจากเนื้อปูและความกรอบของไข่ปลาแซลมอน แนะนำให้รับประทานคู่กันกับ Corn Tostadas กรอบ ๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี (14/20)

CHIANG MAI TOMATO SALAD (380++)
Heirloom tomato, fermented chili mayonnaise, salted lemon
สลัดมะเขือเทศหน้าตาสวยงามจานนี้ได้จากการนำมะเขือเทศ Heirloom จากฟาร์มออร์แกนิคในจังหวัดเชียงใหม่มาคลุกเคล้าเข้ากันกับดอกไม้รับประทานได้สีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีน้ำมันมะกอกรวมไปถึงซอสมาโยทำมาจากพริกดองและเลมอนช่วยเติมแต่งรสชาติให้ดียิ่งขึ้น (12/20)

TUNA CRUDO (690++)
Avocado, baby onions, green chili, fennel, black olive emulsion
ปลา Bluefin Tuna แล่เป็นชิ้นนุ่มบางแล้วเสิร์ฟมาแบบดิบจับคู่กับผักนานาชนิดทั้งอโวคาโด หัวหอม พริกซอย เฟนเนล ผักชีเสริมมิติความกรอบให้แตกต่างกัน ทั้งยังมีอโรมาหอม ๆ ของมะกอกดำเทราดมาเป็น Emulsion รอบ ๆ จานอีกด้วย (12/20)

ESQUITES (390++)
Roasted baby corn, pecorino, jalapeño mayonnaise, macadamia
จานนี้เชฟนำข้าวโพดอ่อนมาย่างแล้วจุ่มลงในซอสมาโยทำมาจากพริก Jalapeño เพิ่มรสชาติเค็มกลมกล่อมด้วยชีสนมแกะ Pecorino และลูกกลม ๆ สีชมพูทำมาจาก Finger Lime Caviar นั่นเอง (13/20)

CORN TOSTADAS
นอกจากนี้ยังมีแผ่น Tostadas กรอบ ๆ ให้รับประทานกันเพลิน ๆ อีกด้วย

BONE MARROW (850++)
Tortillas, khao khua brulee, burnt salsa, chiles toreados
สำหรับคนที่ชอบคอนเซปการรับประทานอาหารแบบ Head-to-Tail ห้ามพลาดไขกระดูกสันหลังวัวชิ้นโตที่ย่างจนสุกเสิร์ฟมาคู่กับ Khao Kua Brulee โดยเชฟอาศัยเทคนิคในการโรยข้าวคั่วก่อนจะใช้ไฟทอร์ชจนมีความกรอบได้ระดับ (13/20)

BONE MARROW (850++)
Tortillas, khao khua brulee, burnt salsa, chiles toreados
อีกฝั่งหนึ่งคือ Chiles Toreados หรือพริกย่างสไตล์ Mexican และชิ้นมะนาวนั่นเอง (13/20)

BONE MARROW (850++)
Tortillas, khao khua brulee, burnt salsa, chiles toreados
เชฟตั้งใจเสิร์ฟมาคู่กับซอส 3 ชนิดคือ Burnt Salsa, Salsa Verde และ Lazy Salsa ให้รสชาติที่แตกต่างกัน (13/20)

BONE MARROW (850++)
Tortillas, khao khua brulee, burnt salsa, chiles toreados
นำทุกองค์ประกอบใส่เข้าด้วยกันบนแผ่นแป้งเป็นอันพร้อมชิม (13/20)

PESCADO ZARANDEADO (1,500++)
Grilled fish, avocado, cucumber, chili & coriander adobo
Main Course จานแรกคือ Sea Bss หรือปลากะพงนำเข้าสังเกตขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ เชฟทาด้วย Adobo Sauce ก่อนจะนำไปย่างจนสุกได้ที่ ด้านบนคือองค์ประกอบของสมุนไพรหลากหลายชนิดโดยมี Side Dish คืออโวคาโด แตงกวา พริก และเลมอนสำหรับเพิ่มรสเปรี้ยวนั่นเอง (13/20)

BIRRIA (2,500++)
Beef short rib slow-cooked in Jalisco adobo, burnt baby onions, fermented chili sauce
Birria หรือเนื้อซี่โครงวัวตุ๋นใน Jalisco Adobo จนนุ่มในระดับที่ใช้ช้อนตัดเบา ๆ เนื้อก็ร่อนออกจากกัน น้ำซอสทำมาจากพริกดองให้รสชาติอันแสนเข้มข้น อย่าลืมให้บีบมะนาวลงไปเพื่อเสริมความเปรี้ยวได้อย่างพอเหมาะ (13/20)

Main Course จัดเสิร์ฟมาคู่กับข้างเหนียวและเครื่องเคียงต่าง ๆ

ARROZ CON LECHE (350++)
Vanilla creamy rice, cinnamon ice cream, toasted white chocolate, sugar brulée, soy milk flakes
ของหวานจานที่ดีที่สุดคือ Arroz Con Leche หรือ Rice Pudding มีลักษณะเป็นข้าวนุ่ม ๆ หอมกลิ่นวานิลลา เชฟเสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมซินนามอน ไวท์ช็อกโกแลตคั่วและน้ำตาลบรูเล่กรอบ ๆ ด้านบนท็อปด้วย Soy Milk Flakes มีลักษณะเป็นแผ่นฟองนมช่วยเพิ่มมิติทางเนื้อสัมผัสได้อย่างลงตัว (14/20)

MEXICAN BANANA TAMAL (350++)
Dulce de leche ice cream, caramelized banana
Tamal ขนมหวานทำจากกล้วยที่มีลักษณะคล้ายกับข้าวต้มมัดบ้านเรา เนื้อสัมปัสนุ่ม แน่น หอม หวาน เสิร์ฟมาคู่กับกล้วยที่ผ่านการโรยน้ำตาลแล้วทอร์ชจนเกิดเลเยอร์กรอบ ๆ บาง ๆ คล้ายบรูดล่ และไอศดรีม Dulce de Leche หอมมันข้างๆ กัน (13/20)

น้ำส้ม

เครื่องดื่มสูตรเฉพาะของทางร้าน

ในวันนี้เราขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปพบกับร้านที่กำลังอยู่ในเทรนด์จนมีคิวจองเต็มไปนานกว่า 1 เดือนนั่นก็คือ Ojo (อ่านว่าโอโฮ) ห้องอาหาร Mexican ประจำโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่เพิ่งมาเปิดสาขาในบ้านเราเป็นครั้งแรกนั่นเอง

ตัวร้านมีชื่อแปลตรงตัวว่าดวงตาโดยมีจุดเด่นคือตำแหน่งที่ตั้งอยู่สูงถึงชั้น 76 ของตึก King Power Mahanakhon

สำหรับใครที่แวะมาในช่วงกลางวันสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพมุมกว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตาหรือใครที่แวะมาในช่วงเย็นก็สามารถรับชมพระอาทิตย์ตกดินและแสงสีของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนได้อีกด้วย

ภายในห้องอาหารตกแต่งให้มีความหรูหราร่วมสมัยโดยใช้สีชมพูสลับกันกับสีทอง

ผนังทุกฝั่งกั้นด้วยกระจกใสบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน

ห้ามพลาดจองที่นั่งริมหน้าต่าง

หลังจบมื้ออาหารอย่าลืมแวะขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าเพื่อเยี่ยมชม Mahanakhon SkyWalk กันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย

โต๊ะขนาดใหญ่สำหรับรองรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม

ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์บาร์สำหรับชงเครื่องดื่มรายล้อมด้วยโต๊ะอาหารหินอ่อนพร้อมกับเก้าอี้หมุนและโซฟาขนาดใหญ่

ส่วนพระเอกของเราอย่างอาหาร Mexican นั้นทางร้านได้คว้าตัวเชฟ Francisco Paco Ruano หรือเชฟ Paco เจ้าของห้องอาหารชื่อดัง Alcalde ในนคร Guadalajara มาเป็นผู้คิดค้นเมนูทั้งยังมอบหมายให้เชฟ Alonso Luna Zarate มาคอยควบคุมในห้องครัวอีกด้วย

ลูกค้าบางท่านอาจจะขึ้นไปนั่งบนชั้นลอยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็ยังได้



ราคาอาหารค่อนไปทางสูงแต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพวัตถุดิบนำเข้าและบรรยากาศอันยากจะลืมได้ลง

ด้วยปริมาณห้องอาหาร Mexican ที่มีอยู่น้อยนิดในประเทศไทยนี่เองทำให้ Ojo กลายมาเป็นจุดหมายสำคัญที่เหล่านักชิมต้องหาโอกาสแวะมาลิ้มลองกัน

บรรยากาศของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน

พื้นที่บริเวณ Outdoor

พื้นที่รับลมบริเวณด้านนอก