หน้าแรก » 🇹🇭 Royal Osha – รอยัล โอชา
Visit: April 2, 2025
🇹🇭 Royal Osha - รอยัล โอชา
👨🏻🍳 Chef Vichit Mukura - เชฟวิชิต มุกุระ
99 ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน, กรุงเทพ, 10330
Tel: 02-256-6551

Cuisine
🍴 Thai Contemporary - อาหารไทยร่วมสมัย
Country
Thailand
MICHELIN Guide
Selected by MICHELIN Guide
Score
14/20
Price
Royal Osha เป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุมีชื่อเสียงในด้านการนำเสนออาหารไทยแท้ในรูปแบบร่วมสมัยโดยยังคงไว้ซึ่งรสชาติและเอกลักษณ์ของอาหารไทยดั้งเดิม ประตูบานใหญ่นำไปสู่ห้องอาหารหลักที่ตกแต่งอย่างประณีต ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีดำ-ทองบ่งบอกถึงความหรูหราและอบอุ่น ห้องส่วนตัวถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ เพดานสูงโปร่งโดดเด่นด้วยโคมไฟระย้ารูปชฎาสีทองที่ประดับด้วยคริสตัล พื้นที่ชั้นสองมีจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ นอกจากนี้ Royal Osha ยังถูกใช้เป็นหนึ่งในฉากของซีรีย์ The White Lotus Season 3 อีกด้วย
เชฟวิชิต มุกุระ เกิดและเติบโตขึ้นที่เมืองพัทยา เขาสั่งสมประสบการณ์การทำงานครัวกว่า 27 ปีครึ่งที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำของโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ รวมไปถึงโรงแรมหรูอื่น ๆ อีกหลายแห่งในประเทศไทยมาประกอบกันเป็นองค์ความรู้อันลึกซึ้งเกี่ยวกับอาหารไทย หลังจากนั้นเขาตั้งใจออกมาหาความท้าทายใหม่ ๆ โดยการพาห้องอาหาร Khao คว้ารางวัล
1 MICHELIN Star มาครองได้อยู่พักใหญ่ก่อนจะย้ายมาร่วมงานกับห้องอาหาร Royal Osha จนถึงปัจจุบัน นอกจากรายการอาหารแบบ À La Carte แล้วลูกค้ายังสามารถเบือกชิม Set Menu ได้ 2 รูปแบบตามใจชอบโดยเชฟวิชิตนำเสนออาหารไทยมาในรูปแบบร่วมสมัยเพื่อให้เข้าถึงง่ายจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามอาหารทุกจานยังคงไว้ซึ่งความจัดจ้านและมีมิติ ตัวอย่างเมนูที่โดดเด่นในวันนี้อย่างเช่น

เมี่ยวคำบัวหลวง ด้านในบรรจุฟัวกราส์ที่มีความครีมมี่หอมมัน ยังมีเครื่องเมี่ยง มะพร้าวคั่ว ถั่ว หอมแดง ขิง จากนั้นราดด้วยซอสมะขามและกะปิ ด้านบนท็อปด้วยพริกสดซอยช่วยเติมแต่งรสชาติจัดจ้านได้อย่างลงตัว (14/20)

หนวดหมึกยักษ์หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ วางมาคู่กันกับไข่ปลาแซลมอนและผงลาบ ตรงกลางคือยำสมุนไพร แนะนำให้ตักรับประทานทุกองค์ประกอบเพื่อสัมผัสถึงกลิ่นหอมของข้าวคั่ว (14/20)

เมนูประจำร้านคือต้มยำกุ้งแม่น้ำที่ใช้เทคนิคของเครื่อง Siphon ในการดันน้ำต้มยำขึ้นไปพบกันกับสมุนไพรต่าง ๆ เพียงชั่วครู่เท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สมุนไพรสุกเกินไปจนได้รสชาติขมก่อนจะไหลกลับลงมาอยู่ที่เดิม ทางร้านคัดเฉพาะกุ้งแม่น้ำไซซ์ใหญ่ย่างจนสุกพอดี นอกจากนี้ยังมีซุปที่เตรียมมาจากการเคี่ยวกุ้งแม่น้ำไซซ์เล็ก เชฟยังเสิร์ฟมากับเห็ดและหอมแดงซอยอีกด้วย (14/20)

คอร์สนี้เชฟนำเสนอแกงปูและใบยี่หร่าทอดกรอบ ตัวแกงให้รสชาติจัดจ้านจนเหงื่อตก (ใครที่ไม่ชอบรถเผ็ดสามารถขอแกง ที่มีรสชาติบางลงได้) ในจานประกอบไปด้วยเนื้อปูม้าไซซ์ยักษ์ ไฮไลท์คือการใช้เส้นโซเมนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นให้เนื้อสัมผัสที่เบาและรับประทานง่ายขึ้น (15/20)

Price :
4,000 THB
Parking :
จอดที่อาคารหลังร้าน
Operating Time :
12.00-23.00
Dress Code :
Smart Casual
Score
👍 ร้านอาหารไทยร่วมสมัยนำเสนอมาในบรรยากาศที่เรียบหรูและแตกต่าง
อาหาร :
14
ราคา :
เทคนิค :
อัตลักษณ์ :
บรรยากาศ :
บริการ :
ไวน์ :
Map
📃 ROYAL OSHA SET MENU (4,000++)






Royal Osha – รอยัล โอชา
Selected by MICHELIN Guide – ร้านอาหารที่ได้รับเลือกในมิชลินไกด์
Thai Contemporary – อาหารไทยร่วมสมัย
Chef Vichit Mukura – เชฟวิชิต มุกุระ

บริเวณชั้นสองของร้าน Royal Osha ได้ถูกใช้เป็นหนึ่งในฉากของซีรีย์ The White Lotus Season 3 อีกด้วย

WELCOME DRINK
เริ่มต้นด้วย Welcome Drink เป็นน้ำมะยงชิดใส่โซดา ด้านล่างมีว่านหางจระเข้ใส่มาด้วย

STARTER
เมี่ยงคำบัวหลวงฟัวกราส์
Seared Foie Gras in Lotus Petal with Thai Herb Condiments and Tamarind Sauce
เมี่ยวคำบัวหลวง ด้านในบรรจุฟัวกราส์ที่มีความครีมมี่หอมมัน ยังมีเครื่องเมี่ยง มะพร้าวคั่ว ถั่ว หอมแดง ขิง จากนั้นราดด้วยซอสมะขามและกะปิ ด้านบนท็อปด้วยพริกสดซอยช่วยเติมแต่งรสชาติจัดจ้านได้อย่างลงตัว (14/20)

STARTER
ลาบปลาหมึกยักษ์
Octopus tentacles with spicy herbs salad and toasted rice powder
หนวดหมึกยักษ์หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ วางมาคู่กันกับไข่ปลาแซลมอนและผงลาบ ตรงกลางคือยำสมุนไพร แนะนำให้ตักรับประทานทุกองค์ประกอบเพื่อสัมผัสถึงกลิ่นหอมของข้าวคั่ว (14/20)

STARTER
ยำสายบัวล็อบสเตอร์
Grilled Canadian Lobster with lotus stem Salad
กุ้งแคนาเดียนล็อบสเตอร์เป็น ๆ ย่างเสิร์ฟมากับน้ำปลาหวาน ยังมียำสายบัวกรอบ ๆ ให้รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดครบรส (14/20)

STARTER
หอยเชลล์ย่างกับซัลซ่าปลาเค็มและครีมข้าวโพด
Seared Hokkaido Scallop with Thai Salted Fish Salsa and Sweet Cream Corn Puree
หอยเชลล์โฮตาเตะจากประเทศญี่ปุ่นย่างจนสุกหวาน เชฟเสิร์ฟมาครีมเพียวเรข้าวโพดหวาน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของซอสปลาเค็มไทยใส่มาอีกด้วย ส่วนอวค์ประกอบสีเขียวรอบ ๆ คือน้ำมันผักชีนั่นเอง (13/20)

SOUP
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ
Spicy Blue River Prawn Soup with Lemongrass and Assorted Mushroom
เมนูประจำร้านคือต้มยำกุ้งแม่น้ำที่ใช้เทคนิคของเครื่อง Siphon ในการดันน้ำต้มยำขึ้นไปพบกันกับสมุนไพรต่าง ๆ เพียงชั่วครู่เท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สมุนไพรสุกเกินไปจนได้รสชาติขมก่อนจะไหลกลับลงมาอยู่ที่เดิม (14/20)

SOUP
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ
Spicy Blue River Prawn Soup with Lemongrass and Assorted Mushroom
สมุนไพรต่าง ๆ ที่เชฟใส่ในเครื่อง Siphon

SOUP
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ
Spicy Blue River Prawn Soup with Lemongrass and Assorted Mushroom
ทางร้านคัดเฉพาะกุ้งแม่น้ำไซซ์ใหญ่ย่างจนสุกพอดี นอกจากนี้ยังมีซุปที่เตรียมมาจากการเคี่ยวกุ้งแม่น้ำไซซ์เล็ก เชฟยังเสิร์ฟมากับเห็ดและหอมแดงซอยอีกด้วย (14/20)

MAIN COURSE
บะหมี่แกงปูใบยี่หร่า
Blue crab meat red curry with noodles
คอร์สนี้เชฟนำเสนอแกงปูและใบยี่หร่าทอดกรอบ ตัวแกงให้รสชาติจัดจ้านจนเหงื่อตก (ใครที่ไม่ชอบรถเผ็ดสามารถขอแกง ที่มีรสชาติบางลงได้) ในจานประกอบไปด้วยเนื้อปูม้าไซซ์ยักษ์ ไฮไลท์คือการใช้เส้นโซเมนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นให้เนื้อสัมผัสที่เบาและรับประทานง่ายขึ้น (15/20)

MAIN COURSE
ซี่โครงแกะออสเตรเลียย่างกับซอสแกงเขียวหวาน
Grilled Australain lamb chop with green curry sauce served with seasonal vegetables
ซี่โครงแกะนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียย่างจนสุก รอบ ๆ คือครัสต์กรอบ ๆ ยังมีมะเขือและมูสฟักทองยังมียอดมะพร้าว ช่วยเพิ่มความกรอบให้กับจาน จากนั้นพนักงานจะเทราดซอสแกงเขียวหวานลงไปอีกทีนึง (14/20)

DESSERT
ขนมหม้อแกงหยดน้ำกับกรานิต้าแตงโม
Custard pudding and watermelon granita
ของหวานในครั้งนี้คือขนมหม้อแกงหยดน้ำเสิร์ฟมากับกรานิต้าแตงโม ที่โต๊ะพนักงานจะราดซอสเฉาก๊วยรสชาติเข้มข้นลงไปอีกทีหนึ่ง (14/20)

DESSERT
ขนมโคน้ำกะทิ (450++)
Sticky Rice Ball Stuffed with Caramelised Coconut in Aromatic Coconut Milk
ขนมโคยัดไว้ด้วยมะพร้าวทึนทึกคั่วและเนื้อมะพร้าว ด้านนอกห่อด้วยแป้งนุ่มหนึบ ด้านบนท็อปด้วยข้าวพองกรอบ ๆ จากนั้นพนักงานจะเทซอสกะทิลงไปอีกทีหนึ่ง (14/20)

DESSERT
ขนมกาแฟ
Petit Fours
ปิดท้ายด้วยขนมจิ๋ว ประกอบไปด้วยคุกกี้สับปะรดและดาร์คช็อกโกแลตสอดไส้เจลลี่กระเจี๊ยบ

Royal Osha เป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุมีชื่อเสียงในด้านการนำเสนออาหารไทยแท้ในรูปแบบร่วมสมัยโดยยังคงไว้ซึ่งรสชาติและเอกลักษณ์ของอาหารไทยดั้งเดิม

ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีดำ-ทองบ่งบอกถึงความหรูหราและอบอุ่น ห้องส่วนตัวถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่

เชฟวิชิต มุกุระ เกิดและเติบโตขึ้นที่เมืองพัทยา เขาสั่งสมประสบการณ์การทำงานครัวกว่า 27 ปีครึ่งที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำของโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ รวมไปถึงโรงแรมหรูอื่น ๆ อีกหลายแห่งในประเทศไทยมาประกอบกันเป็นองค์ความรู้อันลึกซึ้งเกี่ยวกับอาหารไทย หลังจากนั้นเขาตั้งใจออกมาหาความท้าทายใหม่ ๆ โดยการพาห้องอาหาร Khao คว้ารางวัล
1 MICHELIN Star มาครองได้อยู่พักใหญ่ก่อนจะย้ายมาร่วมงานกับห้องอาหาร Royal Osha จนถึงปัจจุบัน

นอกจากรายการอาหารแบบ À La Carte แล้วลูกค้ายังสามารถเบือกชิม Set Menu ได้ 2 รูปแบบตามใจชอบโดยเชฟวิชิตนำเสนออาหารไทยมาในรูปแบบร่วมสมัยเพื่อให้เข้าถึงง่ายจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามอาหารทุกจานยังคงไว้ซึ่งความจัดจ้านและมีมิติ

Table Setting

พื้นที่ชั้นสองมีจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์

ประตูบานใหญ่นำไปสู่ห้องอาหารหลักที่ตกแต่งอย่างประณีต

นอกจากอาหารรสเลิศแล้วทางร้านยังมีเครื่องดื่มให้เลือกอย่างหลากหลายพร้อมบริการจากพนักงานที่สามารถแนะนำและอธิบายรายละเอียดของแต่ละเมนูได้อย่างเชี่ยวชาญ หากกำลังมองหาอาหารไทยในรูปแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ Royal Osha เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!