Visit: March 1, 2025

🇹🇭 Kohaku - โคฮากุ

Hotel Nikko Bangkok, 3F, Ginza Thonglor, 27 ถนนทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ กรุงเทพมหานคร 10110

Tel: 062-925-2829

Cuisine

🍴 Sushi - ซูชิ

Country

Thailand

MICHELIN Guide

None

Score

Price

/5
          

🎗️ Kohaku เป็นในร้านซูชิที่นำเสนอคอร์ส Omakase ออกมาได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 3 ของ Hotel Nikko Bangkok หลังจากผ่านบาร์และจุดตรวจสอบการจองเข้าไปลูกค้าจะพบกับทัศนียภาพมุมกว้างของตึกสูงระฟ้าผ่านกระจกใสบานใหญ่ ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์ไม้รูปตัว L แลดูหรูหรา เบื้องหลังเป็นภาพของปลาคาร์ปแหวกว่ายไปมา นอกจากนี้ยังมีทีมเชฟคนไทยที่จะคอยสร้างบรรยากาศอันแสนสนุกให้กับลูกค้าทุกคนตลอดมื้อ

          
🎗️ สำหรับสไตล์การปั้นซูชิจะอ้างอิงจากรูปแบบเอโดะมาเอะแต่จะมีการปรับรสชาติอาหารบางคอร์สให้เข้ากันกับลิ้นคนไทยมากขึ้น นอกจากนี้วัตถุดิบทุกคอร์สสามารถสื่อได้ถึงความพรีเมี่ยมและผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ใครที่มองหาความคุ้มค่าห้ามพลาดคอร์ส Hiru (10 Courses/990++) จัดเสิร์ฟเฉพาะมื้อกลางวันโดยมีจุดเด่นคือราคาเริ่มต้นสุดคุ้มค่า สำหรับมื้อเย็นนั้นทีมเชฟจะเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมนำเสนออกมาให้เลือกกัน 4 รูปแบบคือ Nigiri (12 Courses/1,500++), Matsu (12 Courses/1,500++), Take (15 Courses/3,200++) และคอร์สใหญ่สุดที่เราได้ลองชิมกันในวันนี้คือ Umi (18 Courses/4,900++) คำที่เราประทับใจมาก ๆ ได้แก่

✨ Isobe Maki
หนึ่งในคอร์สที่แสนเรียบง่ายแต่ทางร้านเตรียมออกมาได้ดีมาก ๆ คือ Isobe Maki ที่ได้จากการนำเนื้อปลา Masaba ซึ่งสามารถรับประทานได้แบบดิบ ๆ มาหมักกับเกลือประมาร 50 นาทีเพื่อดึงน้ำออกและให้รสชาติของปลามีความเข้มข้นต่อด้วยการดองกับน้ำส้มสายชูขาวอีก 1 ชั่วโมง จากนั้นค่อย ๆ พันม้วนเป็นโรล Maki กับสาหร่าย ตรงกลางคือหอมไทย ขิงดอง และใบ Shiso

✨ Mushi Awabi With Kimo Sauce
Awabi หรือหอยเป๋าฮื้อญี่ปุ่นที่เชฟนำไปผ่านการตุ๋นนาน 4 ชั่วโมงให้เนื้อสัมผัสที่เด้งและหนึบ จากนั้นเสิร์ฟมากับข้าวญี่ปุ่นที่ผ่านการหมักกับน้ำส้มสายชูขาว ยังมีพระรองของจานอย่าง Kimo Sauce หรือซอสตับหอยที่ผ่านการหมักกับสาเก 30 นาทีต่อด้วยนึ่งกีบสาเกอีก 30 นาทีเพื่อลดกลิ่นคาว ทั้งยังให้ความครีมมี่และความเข้มข้นที่พอเหมาะ

✨ Ankimo
Ankimo หรือตับปลาอังโกะผ่านการเตรียมมาอย่างดี ทั้งยังผ่านการหมักกับซอส Nitsuke นานถึง 3 วันจนได้จากความครีมมี่จนเกือบละลายได้ในปาก ตัวซอส Nitsuke ก็ยังให้รสหวานกลมกล่อมที่เชฟปรับรสชาติให้เข้ากันกับลิ้นคนไทย จากนั้นท็อปด้านบนด้วยวาซาบิสดเพียงเล็กน้อยเพื่อตัดความหวานไม่ให้โดดดจนเกินไป

🎗️ Kohaku เป็นร้านซูชิที่มีตัวเลือกหลาหลายโดยการนำเสนอวัตถุดิบในราคาเริ่มต้นอันแสนคุ้มค่าไปจนถึงคอร์สที่ใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมสมราคา ทีมเชฟคนไทยมีฝีมือในการปั้นซูชิดีกว่ามาตรฐานร้านทั่ว ๆ ไปค่อนข้างมาก ขอแนะนำให้จองกันมาก่อนเนื่องจากตัวร้านมีที่นั่งค่อนข้างจำกัด

Price :

990-4,900++

Parking :

จอดรถที่ Hotel Nikko Bangkok

Operating Time :

12.00, 14.00, 18.00, 20.00

Dress Code :

Casual

Score

👍 ร้านซูชิญี่ปุ่นดั้งเดิมรสชาติดีแห่งย่านทองหล่อ

อาหาร :

ราคา :

/5

เทคนิค :

/5

อัตลักษณ์ :

/5

บรรยากาศ :

/5

บริการ :

/5

ไวน์ :

/5

Map

📃 UME (4,900++)

          
Aori Ika Tozasu

Buri Warayaki

Isobe Maki

Mushi Awabi With Kimo Sauce

Shirako

Ankimo

Yaki Mono

Kohada

Ebi

Kinmedai

Nodokuro

Akami Shoyu Zuke

Seasonal Gai

Otoro

Uni

Osuimono

Kasutera With Yuzu Sauce

Amesu Yuzu Sake

🇹🇭 Kohaku – โคฮากุ

🍴 Sushi – ซูชิ

วัตถุดิบที่เชฟเตรียมมาให้เราชิมในวันนี้

Aori Ika Tozasu

เริ่มต้นคอร์สแรกด้วยหมึก Aori Ika แล่เป็นเส้น ๆ นุ่มหนึบ เชฟเสิร์ฟมากับซอส Tozasu ที่ผสมผสาน Katsuodashi และย้ำส้มสายชูขาวเข้าด้วยกันให้รสออกเปรี้ยวช่วยกระตุ้นน้ำย่อยได้ดี ด้านบนคือผิวยูซุขูดฝอย ด้านล่างคือ Junsai ซึ่งเป็นพืชน้ำที่สร้างวุ้นตามธรรมชานิออกมาได้

Buri Warayaki

ปลา Buri หรือปลาหางเหลืองไซซ์โตเต็มวัยที่เชฟนำไปย่างด้วยฟางข้างหรือที่เรียกกันว่า Warayaki จากนั้นค่อย ๆ แล่เป็นชิ้นพอดีคำ ด้านบนท็อปด้วยหอมไทย หอมญี่ปุ่น และขิงญี่ปุ่น อย่าลืมใส่วาซาบิลงไปเล็กน้อยก่อนชิม

Isobe Maki

หนึ่งในคอร์สที่แสนเรียบง่ายแต่ทางร้านเตรียมออกมาได้ดีมาก ๆ คือ Isobe Maki ที่ได้จากการนำเนื้อปลา Masaba ซึ่งสามารถรับประทานได้แบบดิบ ๆ มาหมักกับเกลือประมาร 50 นาทีเพื่อดึงน้ำออกและให้รสชาติของปลามีความเข้มข้นต่อด้วยการดองกับน้ำส้มสายชูขาวอีก 1 ชั่วโมง จากนั้นค่อย ๆ พันม้วนเป็นโรล Maki กับสาหร่าย ตรงกลางคือหอมไทย ขิงดอง และใบ Shiso

Awabi

คอร์สถัดดไปแฃเป็นวัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง Awabi

Mushi Awabi With Kimo Sauce

Awabi หรือหอยเป๋าฮื้อญี่ปุ่นที่เชฟนำไปผ่านการตุ๋นนาน 4 ชั่วโมงให้เนื้อสัมผัสที่เด้งและหนึบ จากนั้นเสิร์ฟมากับข้าวญี่ปุ่นที่ผ่านการหมักกับน้ำส้มสายชูขาว ยังมีพระรองของจานอย่าง Kimo Sauce หรือซอสตับหอยที่ผ่านการหมักกับสาเก 30 นาทีต่อด้วยนึ่งกีบสาเกอีก 30 นาทีเพื่อลดกลิ่นคาว ทั้งยังให้ความครีมมี่และความเข้มข้นที่พอเหมาะ

Shirako

Shirako หรือถุงอัณฑะของปลาค็อดญี่ปุ่นมีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อสัมผัสอันแสนละมุนและความครีมมี่ชนิดที่หาวัตถุดิบอื่นเทียบเคียงได้ยาก เชฟนำไปต้มกับสาเกในไฟอ่อนนาน 2-3 นาที ด้านล่างรองด้วยซอส Ponzu สูตรพิเศษของทางร้านให้ความเค็มเปรี้ยวพอเหมาะ ส่วนด้านบนคือต้มหอมซอย หัวไชเท้า และผิวยูซุ

Ankimo

Ankimo หรือตับปลาอังโกะผ่านการเตรียมมาอย่างดี ทั้งยังผ่านการหมักกับซอส Nitsuke นานถึง 3 วันจนได้จากความครีมมี่จนเกือบละลายได้ในปาก ตัวซอส Nitsuke ก็ยังให้รสหวานกลมกล่อมที่เชฟปรับรสชาติให้เข้ากันกับลิ้นคนไทย จากนั้นท็อปด้านบนด้วยวาซาบิสดเพียงเล็กน้อยเพื่อตัดความหวานไม่ให้โดดดจนเกินไป

Yaki Mono

สำหรับคอร์สย่างเชฟนำเสนอปลา Mahikari ที่ผ่ทนการทำให้แห้งในตู้เย็น จากนั้นนำไปย่างกับถ่าน Binchotan มาแบบหนังกรอบและเนื้อนุ่ม ก่อนชิมอย่าลืมลีบมะนาวรวมถึงผสมหัวไชเท้าที่มีซอส Ponzu ลงไปด้วยเล็กน้อย

Kohada

Nigiri Sushi คำแรกคือ Kohada หรือปลาตะเพียนญี่ปุ่นมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ด้านล่างคือข้าวซูชิที่ผ่านการหมักกับน้ำสามสายชู Akasu แล้วแต้มด้วยวาซาบิสดเพียงเล็กน้อย

Ebi

กุ้ง Botan Ebi ที่ผ่านการดองในซีอิ๊วยูซุ ความเปรี้ยวของซีอิ๊วช่วยดึงความหวานโดนธรรมชาติของเนื้อกุ้งให้แสดงออกมาได้อย่างเด่นชัด

Kinmedai

ปลา Kinmedai ที่ผ่านการ Air-Dried นาน 3 วัน จากนั้นทอร์ชด้วยไฟบริเวณหนังจนหอม จากนั้นวางมาบนข้าวญี่ปุ่นที่ไม่ผ่ทนการดองในน้ำส้มสาชูนั่นเอง

Nodokuro

Nodokuro หรือปลากะพงแดงคอดำที่ผ่านการทอร์ชจนเนื้อปลามีไขมันแตกตัวชัดเจน ส่วนหนังปลาก็มีความหอมโดดเด่นไม่แพ้กัน

Maguro

จากนั้นจะนำเนื้อปลา Maguro ที่ผ่านการ Air-Dried นาน 7-14 วันมาแสดงให้ดู

Akami Shoyu Zuke

เนื้อปลาทูน่าส่วนที่มีไขมันน้อยหรือ Akami ที่ผ่านการ Zuke หรือดองในน้ำซีอิ๊วนาน 1-2 ชั่วโมงจนได้รสชาติที่เข้มข้น จากนั้นนำมาทอร์ชด้วยไฟบริเวณผิวชั้นนอกต่อด้วยการแล่เป็นชิ้นแล้วจึง Zuke ต่ออีกทีหนึ่งนั่นเอง

Seasonal Gai

Akagai หรือหอยแครงญี่ปุ่นเป็น ๆ ที่เชฟจะมาฟาดเนื้อหอยบนโต๊ะให้ลูกค้าได้ชมกัน เนื้อหอยมีความเด้งและกรึบ ทั้งยังมีกลิ่นเฉพาะตัวเล็กน้อย

Otoro

Ootoro หรือส่วนท้องของปลาทูน่าที่มีไขมันมากที่สุด เชฟนำไปจี่ด้วยถ่าน Binchotan จนไขมันแตกตัวส่งอโรมาหอมคลุ้งไปทั่วร้าน

Otoro

Ootoro หรือส่วนท้องของปลาทูน่าที่มีไขมันมากที่สุด เชฟนำไปจี่ด้วยถ่าน Binchotan จนไขมันแตกตัวส่งอโรมาหอมคลุ้งไปทั่วร้าน

Uni

หอยเม่นหนามสั้น Bafun Uni มีความหวานและครีมมี่ไม่เหมือนใคร เชฟนำมาห่อกับสาหร่าย Nori ย่างกรอบ ๆ พร้อมส่งให้กับลูกค้าด้วยมือของเชฟเอง

Osuimono

ล้างปากด้วย Sakana Dashi หรือซุปใสปลารสชาติกลมกล่อม เชฟเตรียมซุปมาจากกระดูกปลา Kinmedai ย่างและผักย่าง ในถ้วยยังมีหอมไทย หอมญี่ปึ่น ผิวยูซุเล็กน้อย และเนื้อปลา Kinmedai ย่างใส่มาให้ด้วย

วาซาบิแท้ ๆ ที่ทางร้านเลือกใช้

Kasutera With Yuzu Sauce

ของหวานอย่าง Kasutera ก็เตรียมมาได้ดีตามมาตรฐานคือมีกลิ่นหอมของไข่และเนื้อสัมผัสนุ่มฟู ข้าง ๆ กันคือ Yuzu Butter Sauce ให้รสเปรี้ยวหวานเพียงเบา ๆ

Amesu Yuzu Sake

ปิดท้ายด้วยโมจิหยดน้ำที่เตรียมขึ้นมาจากสาเกช่วยเรียกความสดชื่น ด้านในยังมีเมลอนใส่มาด้วย

ใครที่มองหาความคุ้มค่าห้ามพลาดคอร์ส Hiru (10 Courses/990++) จัดเสิร์ฟเฉพาะมื้อกลางวันโดยมีจุดเด่นคือราคาเริ่มต้นสุดคุ้มค่า สำหรับมื้อเย็นนั้นทีมเชฟจะเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมนำเสนออกมาให้เลือกกัน 4 รูปแบบคือ Nigiri (12 Courses/1,500++), Matsu (12 Courses/1,500++), Take (15 Courses/3,200++) และคอร์สใหญ่สุดที่เราได้ลองชิมกันในวันนี้คือ Umi (18 Courses/4,900++)

คอร์สที่เราได้ชิมในวันนี้

🎗️ Kohaku เป็นในร้านซูชิที่นำเสนอคอร์ส Omakase ออกมาได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา

ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 3 ของ Hotel Nikko Bangkok หลังจากผ่านบาร์และจุดตรวจสอบการจองเข้าไปลูกค้าจะพบกับทัศนียภาพมุมกว้างของตึกสูงระฟ้าผ่านกระจกใสบานใหญ่

ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์ไม้รูปตัว L แลดูหรูหรา เบื้องหลังเป็นภาพของปลาคาร์ปแหวกว่ายไปมา นอกจากนี้ยังมีทีมเชฟคนไทยที่จะคอยสร้างบรรยากาศอันแสนสนุกให้กับลูกค้าทุกคนตลอดมื้อ

🎗️ สำหรับสไตล์การปั้นซูชิจะอ้างอิงจากรูปแบบเอโดะมาเอะแต่จะมีการปรับรสชาติอาหารบางคอร์สให้เข้ากันกับลิ้นคนไทยมากขึ้น นอกจากนี้วัตถุดิบทุกคอร์สสามารถสื่อได้ถึงความพรีเมี่ยมและผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี

🎗️ Kohaku เป็นร้านซูชิที่มีตัวเลือกหลาหลายโดยการนำเสนอวัตถุดิบในราคาเริ่มต้นอันแสนคุ้มค่าไปจนถึงคอร์สที่ใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมสมราคา ทีมเชฟคนไทยมีฝีมือในการปั้นซูชิดีกว่ามาตรฐานร้านทั่ว ๆ ไปค่อนข้างมาก ขอแนะนำให้จองกันมาก่อนเนื่องจากตัวร้านมีที่นั่งค่อนข้างจำกัด