Visit: November 22, 2023

🇮🇹 Locanda Tamerici - โลคันดา ทาเมริชี

👨🏻‍🍳 Chef Mauro Ricciardi - เชฟเมาโร ริชชิอาดิ

via Litoranea 106, località Fiumaretta, Ameglia, 19031, Italy

Tel: (+39) 0187 167 6574

Cuisine

🍴 Modern Cuisine, Mediterranean Cuisine - อาหารโมเดิร์น, อาหารเมดิเตอร์เรเนียน

Country

Italy

MICHELIN Guide

1 MICHELIN Star

Score

14.5/20

Price

3/5
          

🎗 [INTRO] บทความในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับห้องอาหารของเชฟรุ่นเก๋าวัย 71 ปีผู้กลายมาเป็นหนึ่งในตำนานของแคว้น Liguria ตัวร้านนำเสนออาหารระดับสูงที่มีความเข้าถึงง่ายจากลูกค้าทุกกลุ่มแต่ยังคงไว้ซึ่งความซับซ้อนทางเทคนิคจนสามารถคว้ารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาครองได้ในที่สุด

          
🎗 [THE PLACE] Locanda Tamerici ตั้งอยู่ในเมือง Amiglia ห่างจากนคร La Spezia ซึ่งเป็นจุดแวะพักสำคัญสำหรับนักเดินทางที่แวะมาท่องเที่ยว Cinque Terre ลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 20 กิโลเมตร ตัวอาคารมองจากภายนอกมีลักษณะเป็นบ้านสีขาว ลูกค้าที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถกดกริ่งเพื่อยกเปิดไม้กั้นเข้าไปยังที่จอดรถ ภายในร้านตกแต่งให้แลดูเรียบง่ายตั้งแต่การใช้กระจกบานใหญ่ปล่อยให้แสงอาทิตย์จากภายนอกส่องสว่างเข้ามาในช่วงกลางวัน ส่วนเราที่มาในช่วงค่ำสามารถสังเกตเห็นโคมไฟที่ส่องสว่างมาจากบนเพดาน โต๊ะหินอ่อนกลมขนาดใหญ่ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูหรูหรามากยิ่งยิ่งขึ้น รอบ ๆ เป็นสวนซึ่งเต็มไปด้วยแมกไม้สีเขียวแลดูร่มรื่นสบายตา ส่วนใครที่มาในช่วงอากาศเป็นใจทางร้านยังมีที่นั่งนอกตัวอาคารเพื่อซึมซับลมที่พัดโชยมาจากทะเลได้เช่นกัน

🎗 [THE CHEF] Mauro Ricciardi เป็นเชฟรุ่นเก๋ามากประสบการณ์แห่งแคว้น Luguria เขาเกิดในปี 1952 ณ เมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของเมือง La Spezia ที่เหล่านักเดินทางหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีก่อนจะเริ่มต้นชีวิตในสายงานวิศวกรไฟฟ้าให้กับบริษัท Enel ต่อมาเขาตัดสินใจลาออกเพื่อเปิดห้องพักสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์เล็ก ๆ เป็นของตัวเองและใช้ชื่อว่า Locanda delle Tamerici ตัวอาคารมีห้องพักไม่มากนักทั้งยังมีร้านอาหารนำเสนอเมนูท้องถิ่นอย่างง่าย เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณ Mauro ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเริ่มศึกษาและเรียนรู้ทักษะการปรุงอาหารผ่านทางหนังสือและการเข้าเรียนคอร์สทั้งยังผันตัวเองมาควบคุมงานครัวในที่สุด กาลเวลาล่วงเลยมาพักหนึ่งจนกระทั่งเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับเชฟระดับตำนานอย่าง Angelo Paracucchi ที่ห้องอาหาร Locanda dell’Angelo (1 MICHELIN Star) ในเมือง Ameglia และซึมซับเทคนิคการปรุงอาหารระดับสูงมาได้อย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตามในปี 2013 เชฟ Mauro ตัดสินใจปิด Locanda delle Tamerici เพื่อตอบรับคำเชิญของคุณ Stefano Paracucchi ซึ่งเป็นลูกชายของเชฟ Angelo ในการย้ายไปควบคุม Locanda dell’Angelo และรักษารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในปี 2015 ที่คุณ Stefano เสียชีวิตลงเป็นเหตุให้เชฟ Mauro ต้องแบกความรับผิดชอบกิจการด้วยตัวเองทั้งหมด ต่อมาในเดือนตุลาคมของปี 2020 เชฟ Mauro ตัดสินใจขายกิจการ Locanda dell’Angelo เพื่อกลับมาเปิดห้องอาหารของตัวเองโดยใช้ชื่อคล้ายเดิมว่า Locanda Tamerici และสามารถคว้ารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาครองได้ในคู่มือปี 2023 ที่ผ่านมานี้อีกด้วย

🎗 [THE FOOD] เชฟ Mauro นำเสนอ Tasting Menu 2 รูปแบบคือ Menù del Mare (90 €) ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารจำนวน 5 คอร์สและ Menù del Territorio (150 €) ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารจำนวน 7 คอร์ส นอกจากนี้ยังมีรายการ À La Carte ให้เลือกชิมกันตามใจชอบด้วยราคาอยู่ในช่วง 33-40 € เชฟ Mauro ตัดสินใจใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากฟากฝั่งทะเล Mediterranean นำเสนอมาให้มีความเข้าถึงได้ง่ายและไม่ต้องตีความกันมากนัก รายการไวน์มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายในราคาที่จัดว่าคุ้มค่าสำหรับมาตรฐานของตัวร้าน ในมื้อนี้มีจานที่เชฟเตรียมออกมาได้อย่างโดดเด่นคือ

✨ Lobster
ล็อบสเตอร์เนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันเสิร์ฟมากับซอสพริกหวานแดง, ซอสหัวหอม และซอส Tamarindo สไตล์อเมริกากลาง ถึงแม้องค์ประกอบของจานอาจมีไม่มากแต่เชฟสามารถนำเสนอรสชาติออกมาได้อย่างสมดุล (14/20)

✨ Sole
ปลา Sole ประกบคู่กันมาให้รสเค็มเบา ๆ ไปควบคู่กันกับเนื้อสัมผัสที่ละมุนลิ้นไร้ที่ติ เชฟเสริมด้วยความหวานที่ได้จาก Topinumbur หรือแก่นตะวันและอโรมาหอม ๆ ของ Black Truffle (15/20)

✨ Fidelino
พาสต้าเส้น Fidelino มีลักษณะเป็นเหมือนสปาเก็ตตี้ขนาดเล็ก เชฟเตรียมมาเป็นเส้นสดจับคู่กับกุ้งแดงเนื้อเด้งสู้ฟันและองค์ประกอบของ Kumquat ให้กลิ่นหอมที่โดดเด่น องค์ประกอบของหัวหอมแดงให้รสชาติหวานเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีทาร์รากอนใส่มาด้านบนอีกด้วย (15/20)

🎗 [WHY GO] Locanda Tamerici เป็นห้องอาหารของเชฟรุ่นเก๋าที่ยังคงไว้ลายและแสดงทักษะของการเตรียมอาหารระดับสูงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังมีความอร่อยและเข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องตีความ หลังจบมื้อเชฟ Mauro ได้เชิญเราทุก ๆ คนเข้าไปเยี่ยมชมห้องครัวด้วยความเป็นกันเองทั้งยังมอบของฝากติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วย ราคาอาหารถือว่าเหมาะสมเมื่อเทียบกับวัตถุดิบที่ประกอบไปด้วยอาหารทะเลหลากหลายคอร์ส อย่าลืมสั่งไวน์คุณภาพดีมาลองชิมกันเพราะทางร้านนำเสนอมาในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ นั่นเอง

Price :

90-150 €

Parking :

จอดข้างร้าน

Operating Time :

12.30-15.00, 20.00-23.00 ปิดวันจันทร์-อังคาร

Dress Code :

Smart Casual

Score

👍 ร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียนของเชฟระดับตำนานที่ยังคงยืนคุมพื้นที่หน้าเตาด้วยตัวเองในทุก ๆ วัน

อาหาร :

14.5

ราคา :

3/5

เทคนิค :

3/5

อัตลักษณ์ :

3/5

บรรยากาศ :

4/5

บริการ :

5/5

ไวน์ :

4/5

Map

📃 MENÙ DEL TERRITORIO (150 €) composto da sette portate

          
Amuse-bouche

Lobster

Sole

Partridge

Fidelino

Turbot

Lamb

Millefoglie

Petit fours

🇮🇹 Locanda Tamerici – โลคันดา ทาเมริชี

🌟 1 MICHELIN Star – 1 ดาวมิชลิน

🍴 Modern Cuisine, Mediterranean Cuisine – อาหารโมเดิร์น, อาหารเมดิเตอร์เรเนียน

👨🏻‍🍳 Chef Mauro Ricciardi – เชฟเมาโร ริชชิอาดิ

🎗 [INTRO] บทความในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับห้องอาหารของเชฟรุ่นเก๋าวัย 71 ปีผู้กลายมาเป็นหนึ่งในตำนานของแคว้น Liguria ตัวร้านนำเสนออาหารระดับสูงที่มีความเข้าถึงง่ายจากลูกค้าทุกกลุ่มแต่ยังคงไว้ซึ่งความซับซ้อนทางเทคนิคจนสามารถคว้ารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาครองได้ในที่สุด

Amuse-bouche

เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยของว่างเรียกน้ำย่อยประกอบไปด้วยกุ้งฝอยทอดกรอบ เคี้ยวง่าย ไม่อมน้ำมัน รสชาติออกเค็มนิด ๆ ข้างกันคือเบอร์เกอร์สีดำชิ้นจิ๋ว ตรงกลางคือเนื้อของหมึกหนึบ ๆ ผักปวยเล้ง และซอสมะเขือเทศ ถัดมาคือครีมปลาค็อดเนื้อสัมผัสละมุนคล้ายสำลีเสิร์ฟมาคู่กันกับเฟลเนล สุดท้ายคือเซวิเช่เสิร์ฟมากับหอยลายอิตาลีและคาเวียร์ (14/20)

Lobster

ล็อบสเตอร์เนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันเสิร์ฟมากับซอสพริกหวานแดง, ซอสหัวหอม และซอส Tamarindo สไตล์อเมริกากลาง ถึงแม้องค์ประกอบของจานอาจมีไม่มากแต่เชฟสามารถนำเสนอรสชาติออกมาได้อย่างสมดุล (14/20)

Sole

ปลา Sole ประกบคู่กันมาให้รสเค็มเบา ๆ ไปควบคู่กันกับเนื้อสัมผัสที่ละมุนลิ้นไร้ที่ติ เชฟเสริมด้วยความหวานที่ได้จาก Topinumbur หรือแก่นตะวันและอโรมาหอม ๆ ของ Black Truffle (15/20)

Partridge

Partridge หรือนกในตระกูลนกกระทารองด้านล่างด้วยชิ้นฟัวกราส์ตับเป็ด จากนั้นราดด้วยซอสนกกระทาเพื่อเพิ่มความเข้มข้น ข้าง ๆ กันคือเกาลัดผัดให้รสหวานเข้ากันกับเนื้อนก (14/20)

Fidelino

พาสต้าเส้น Fidelino มีลักษณะเป็นเหมือนสปาเก็ตตี้ขนาดเล็ก เชฟเตรียมมาเป็นเส้นสดจับคู่กับกุ้งแดงเนื้อเด้งสู้ฟันและองค์ประกอบของ Kumquat ให้กลิ่นหอมที่โดดเด่น องค์ประกอบของหัวหอมแดงให้รสชาติหวานเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีทาร์รากอนใส่มาด้านบนอีกด้วย (15/20)

Turbot

ปลาเทอร์บอทปรุงสุกพอดีจนได้เนื้อสัมผัสเคี้ยวสู้ฟัน เชฟเสริมด้วยรสชาติของอาร์ติโชคแก่นตะวันสองรูปแบบและ Vegetable Sauce สีเขียวที่เตรียมมาจากผักหลายชนิด (14/20)

Lamb

เนื้อแกะส่วนเนื้อสันและส่วนซี่โครงเสิร์ฟมาที่ความสุกระดับมีเดียม จากนั้นเชฟราดด้วยซอสแกะเพื่อเพิ่มความเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีมันฝรั่งเสิร์ฟมากับต้นหอมซอยตัดเนื้อสัมผัสกันกับแกะได้อย่างพอเหมาะ (15/20)

Lamb

ข้าง ๆ กันคือกระเพาะแกะพันม้วนมากับผัก Cime di Rapa หรือที่เรารู้จักกันว่า Broccoletto และคาเวียร์ (15/20)

Bread

ขนมปังเสิร์ฟมาหลากหลายอย่างพร้อม ๆ กันมีทั้ง White Bread, Black Bread, Focaccia, Grissini

Millefoglie

มิลเฟยกรอบ ๆ เติมแต่งด้วยรสชาติอันหอมละมุนของโยเกิร์ตและไวท์ช็อกโกแลต นอกจากนี้ยังมีความเปรี้ยวและขมของเลมอน จากนั้นตัดเนื้อสัมผัสด้วยความกรอบของแอปเปิ้ลที่มีอโรมาหอม ๆ ของโหระพาไทย (15/20)

Petit fours

ปิดท้ายด้วยขนมชิ้นจิ๋วมากมายหลายชนิดก่อนกลับบ้านทั้ง Coffee with Chocolate, Coconut with chocolate, Cannoncino with chantilly และ Macaron with chocolate and nuts

รายการเครื่องดื่มในมื้อนี้

รายการเครื่องดื่มในมื้อนี้

💰 ราคา 760 €/4 คน

🎗 [THE PLACE] Locanda Tamerici ตั้งอยู่ในเมือง Amiglia ห่างจากนคร La Spezia ซึ่งเป็นจุดแวะพักสำคัญสำหรับนักเดินทางที่แวะมาท่องเที่ยว Cinque Terre ลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 20 กิโลเมตร

ตัวอาคารมองจากภายนอกมีลักษณะเป็นบ้านสีขาว ลูกค้าที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถกดกริ่งเพื่อยกเปิดไม้กั้นเข้าไปยังที่จอดรถ

ภายในร้านตกแต่งให้แลดูเรียบง่ายตั้งแต่การใช้กระจกบานใหญ่ปล่อยให้แสงอาทิตย์จากภายนอกส่องสว่างเข้ามาในช่วงกลางวัน ส่วนเราที่มาในช่วงค่ำสามารถสังเกตเห็นโคมไฟที่ส่องสว่างมาจากบนเพดาน โต๊ะหินอ่อนกลมขนาดใหญ่ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูหรูหรามากยิ่งยิ่งขึ้น

รอบ ๆ เป็นสวนซึ่งเต็มไปด้วยแมกไม้สีเขียวแลดูร่มรื่นสบายตา ส่วนใครที่มาในช่วงอากาศเป็นใจทางร้านยังมีที่นั่งนอกตัวอาคารเพื่อซึมซับลมที่พัดโชยมาจากทะเลได้เช่นกัน

🎗 [THE FOOD] เชฟ Mauro นำเสนอ Tasting Menu 2 รูปแบบคือ Menù del Mare (90 €) ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารจำนวน 5 คอร์สและ Menù del Territorio (150 €) ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารจำนวน 7 คอร์ส นอกจากนี้ยังมีรายการ À La Carte ให้เลือกชิมกันตามใจชอบด้วยราคาอยู่ในช่วง 33-40 € เชฟ Mauro ตัดสินใจใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากฟากฝั่งทะเล Mediterranean นำเสนอมาให้มีความเข้าถึงได้ง่ายและไม่ต้องตีความกันมากนัก รายการไวน์มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายในราคาที่จัดว่าคุ้มค่าสำหรับมาตรฐานของตัวร้าน

🎗 [THE CHEF] Mauro Ricciardi เป็นเชฟรุ่นเก๋ามากประสบการณ์แห่งแคว้น Luguria เขาเกิดในปี 1952 ณ เมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของเมือง La Spezia ที่เหล่านักเดินทางหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีก่อนจะเริ่มต้นชีวิตในสายงานวิศวกรไฟฟ้าให้กับบริษัท Enel ต่อมาเขาตัดสินใจลาออกเพื่อเปิดห้องพักสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์เล็ก ๆ เป็นของตัวเองและใช้ชื่อว่า Locanda delle Tamerici ตัวอาคารมีห้องพักไม่มากนักทั้งยังมีร้านอาหารนำเสนอเมนูท้องถิ่นอย่างง่าย เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณ Mauro ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเริ่มศึกษาและเรียนรู้ทักษะการปรุงอาหารผ่านทางหนังสือและการเข้าเรียนคอร์สทั้งยังผันตัวเองมาควบคุมงานครัวในที่สุด กาลเวลาล่วงเลยมาพักหนึ่งจนกระทั่งเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับเชฟระดับตำนานอย่าง Angelo Paracucchi ที่ห้องอาหาร Locanda dell’Angelo (1 MICHELIN Star) ในเมือง Ameglia และซึมซับเทคนิคการปรุงอาหารระดับสูงมาได้อย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตามในปี 2013 เชฟ Mauro ตัดสินใจปิด Locanda delle Tamerici เพื่อตอบรับคำเชิญของคุณ Stefano Paracucchi ซึ่งเป็นลูกชายของเชฟ Angelo ในการย้ายไปควบคุม Locanda dell’Angelo และรักษารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในปี 2015 ที่คุณ Stefano เสียชีวิตลงเป็นเหตุให้เชฟ Mauro ต้องแบกความรับผิดชอบกิจการด้วยตัวเองทั้งหมด ต่อมาในเดือนตุลาคมของปี 2020 เชฟ Mauro ตัดสินใจขายกิจการ Locanda dell’Angelo เพื่อกลับมาเปิดห้องอาหารของตัวเองโดยใช้ชื่อคล้ายเดิมว่า Locanda Tamerici และสามารถคว้ารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาครองได้ในคู่มือปี 2023 ที่ผ่านมานี้อีกด้วย

🎗 [WHY GO] Locanda Tamerici เป็นห้องอาหารของเชฟรุ่นเก๋าที่ยังคงไว้ลายและแสดงทักษะของการเตรียมอาหารระดับสูงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังมีความอร่อยและเข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องตีความ หลังจบมื้อเชฟ Mauro ได้เชิญเราทุก ๆ คนเข้าไปเยี่ยมชมห้องครัวด้วยความเป็นกันเองทั้งยังมอบของฝากติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วย ราคาอาหารถือว่าเหมาะสมเมื่อเทียบกับวัตถุดิบที่ประกอบไปด้วยอาหารทะเลหลากหลายคอร์ส อย่าลืมสั่งไวน์คุณภาพดีมาลองชิมกันเพราะทางร้านนำเสนอมาในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ นั่นเอง