หน้าแรก » 🇹🇭 El Tapeo – เอล ทาเปโญ่
Visit: December 27, 2023
🇹🇭 El Tapeo - เอล ทาเปโญ่
👨🏻🍳 Chef Alberto Izard - เชฟอัลแบร์โต้ อิซาร์ด
24, ซอย สุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
Tel: 083-263-6696

Cuisine
🍴 Spanish - อาหารสเปน
Country
Thailand
MICHELIN Guide
None
Score
12.5/20
Price
El Tapeo สร้างชื่อจากการเป็นห้องอาหารสเปนแห่งแรก ๆ ที่จัดเสิร์ฟเมนูพื้นบ้านแบบท้องถิ่นแท้ ๆ ให้กับชาวกรุงเทพได้รู้จักและทำความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสไตล์ทาปาส, สลัด, อาหารทะเล, ข้าว ไปจนถึงของหวาน ลูกค้าล้วนเลือกสั่งกันได้ในราคาไม่แพงทำให้ตัวร้านได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ในย่านเอกมัย ลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาสามารถเข้าจอดได้ที่โครงการณ์ Park Land ได้ฟรี 3 ชั่วโมงและเดินเข้าซอยต่อมาใช้เวลาไม่นานมากนัก ตัวร้านมองจากด้านหน้ามีลักษณะเป็นบ้านสีขาว 2 ชั้น ภายในออกแบบมาในสไตล์ Taberna หรือร้านเหล้าของสเปนให้บรรยากาศที่เป็นกันเองแต่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ลานกว้างด้านหน้าเหมาะกับการนัดเพื่อน ๆ มานั่งคุยกันช่วงเย็นหลังเลิกงาน ส่วนชั้นสองให้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
เจ้าของร้านคือเชฟ Alberto Izard เป็นหนึ่งในเชฟผู้มีประสบการณ์ในห้องอาหารสเปนชั้นสูงมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย เขาเริ่มต้นช่วยเหลือคุณแม่เตรียมอาหารในห้องครัวเฉกเช่นเดียวกับเด็ก ๆ ชาวสเปนคนอื่น ๆ จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 14 ปีเขาได้เข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนการอาหารชั้นนำในกรุง Madrid อย่าง Escuela de Hosteleria y Turismo อยู่นาน 5 ปี สำหรับเส้นทางเชฟมืออาชีพเขาเริ่มต้นทำงานที่ห้องอาหาร Castello 9 ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมกับห้องอาหาร Cenador de Salvador (1 MICHELIN Star) เพื่อฝึกฝนฝีมือกับห้องอาหารระดับสูง ต่อมาเขาย้ายมาทำงานเป็นเชฟที่โรงแรม Hotel Melia Madrid Princesa อยู่นานถึง 10 ปีควบคู่ไปกับการรับงานเสริมที่ห้องอาหาร Santceloni (2 MICHELIN Stars) อยู่ 3 ปีและห้องอาหาร Coque (1 MICHELIN Star ในขณะนั้น) อีก 5 ปี เมื่อถึงจุดอิ่มตัวเชฟ Alberto ตัดสินใจเปลี่ยนมาร่วมงานกับบริษัท Catering ชื่อดังในเครือ Pastelerias Mallorca ทั้งยังมีส่วนร่วมในการออกแบบอาหารแบบพร้อมรับประทานเพื่อวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของประเทศสเปนอย่าง Mercadona อีกด้วย หลังจากนั้้นเชฟ Alberto เลือกที่จะเดินทางมายังเอเชียและสิ้นสุดการเดินทางที่ประเทศไทยโดยเขารับงานเป็นเชฟให้กับห้องอาหารและโรงแรมชั้นนำมากมายทั้งในกรุงเทพและเชียงใหม่ก่อนจะเดินตามความฝันในการเปิดห้องอาหารเล็ก ๆ เป็นของตัวเองขึ้นและใช้ชื่อว่า El Tapeo ตัวร้านได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมก่อนจะย้ายมาเปิดใหม่ ณ ทำเลปัจจุบัน นอกจากนี้เชฟ Alberto ยังมีห้องอาหารในความควบคุมอีกหนึ่งแห่งคือร้าน Paella House ณ ซอยสุขุมวิท 26 นั่นเอง
ลูกค้าสามารถเลือกชิมได้อาหารหลากหลายหมวดหมู่ได้ตามใจชอบ เราขอแนะนำ Sepia a la plancha con alioli หรือหมึกย่างเคี้ยวหนึบ ไม่เหนียว เสิร์ฟมาบนซอสเขียวที่มีกลิ่นหอมของกระเทียม รสชาติอร่อยและเข้าใจได้ง่าย ถัดมาคือ Gambas al ajillo กุ้งเนื้อแน่นทอดในน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นที่มีความหอมของประเทียมและปาปริก้า นอกจากนี้ยังมีความเผ็ดของพริก ส่วนเมนูข้าวขอแนะนำ Paella de marisco ปาเอญ่าเสิร์ฟมาหม้อใหญ่สำหรับแบ่งกันชิมได้ 3-4 คนโดยเชฟนำข้าวไปผัดกับ Sofrito ทั้งยังมีอโรมาหอม ๆ ของแซฟฟรอน โปรตีนหลักคือกุ้งและหอยสุกกำลังดี ปิดท้ายด้วย Flan casero con Nata หรือขนมฟลานโฮมเมดที่มีความหวานและขมของคาราเมลบาลานซ์กันกับความหอมมันของวิปปิ้งครีมได้ลงตัว ราคาอาหารจัดว่าสมเหตุสมผลและเข้าถึงง่าย รายการไวน์มีให้เลือกสรรกันพอประมาณ หากใครต้องการนั่งในห้องปรับอากาศเราขอแนะนำให้โทรมาจองโต๊ะกันก่อนล่วงหน้าเพราะที่นั่งในร้านมีค่อนข้างจำกัด
Price :
500-800 THB
Parking :
จอดที่โครงการณ์ Park Lane ฟรี 3 ชั่วโมง
Operating Time :
จันทร์และศุกร์ 11.30-15.00, 17.00-23.30, เสาร์และอาทิตย์ 11.30-23.30, ปิดวันอังคาร-พฤหัส
Dress Code :
Casual
Score
👍 ร้านอาหารสเปนพื้นบ้านราคาสมเหตุสมผล
อาหาร :
12.5
ราคา :
เทคนิค :
อัตลักษณ์ :
บรรยากาศ :
บริการ :
ไวน์ :
Map
📃 Á LA CARTE

El Tapeo – เอล ทาเปโญ่
Spanish – อาหารสเปน
Chef Alberto Izard – เชฟอัลแบร์โต้ อิซาร์ด

El Tapeo สร้างชื่อจากการเป็นห้องอาหารสเปนแห่งแรก ๆ ที่จัดเสิร์ฟเมนูพื้นบ้านแบบท้องถิ่นแท้ ๆ ให้กับชาวกรุงเทพได้รู้จักและทำความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสไตล์ทาปาส, สลัด, อาหารทะเล, ข้าว ไปจนถึงของหวานที่นำเสนอมาในราคาไม่แพงทำให้ตัวร้านได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ในย่านเอกมัย

Croquetas de Marisco (195++)
Seafood Croquettes
โครเก็ตซีฟู้ดผิวบาง ด้านในประกอบขึ้นจากซีฟู้ดหลากหลายชนิดทั้งกุ้ง หอยแมลงภู่ หมึกกล้วย และหมึกกระดอง (12/20)

Sepia a la plancha con alioli (275++)
Alioli grilled squid
หมึกย่างเคี้ยวหนึบ ไม่เหนียว เสิร์ฟมาบนซอสเขียวที่มีกลิ่นหอมของกระเทียม รสชาติอร่อยและเข้าใจได้ง่าย (12/20)

Gambas al ajillo (275++)
Garlic prawns
กุ้งเนื้อแน่นทอดในน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นที่มีความหอมของประเทียมและปาปริก้า นอกจากนี้ยังมีความเผ็ดของพริก อย่าลืมชิมขนมปังที่จุ่มลงไปในน้ำมันกอกควบคู่กันไปด้วย (13/20)

Champiñón al ajillo (290++)
Garlic Champignon Mushroom
เห็ดกระดุมฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ผัดกับกระเทียม ไวน์ขาว และแซฟฟรอนจนหอมน่าชิม (13/20)

Paella de marisco (990++)
Seafood paella
ขอแนะนำปาเอญ่าเสิร์ฟมาหม้อใหญ่สำหรับแบ่งกันชิมได้ 3-4 คนโดยเชฟนำข้าวไปผัดกับ Sofrito ทั้งยังมีอโรมาหอม ๆ ของแซฟฟรอน โปรตีนหลักคือกุ้งและหอยสุกกำลังดี (12/20)

ระหว่างมื้อเชฟยังมีมันฝรั่งทอดกรอบ ๆ ให้ชิมกันเพลิน ๆ ด้วย

Tarta de queso (195++)
Basque cheesecake
ขนมชีสเค้กสไตล์ Basque เสิร์ฟมาคู่กันกับถั่วอลนัทกรอบ ๆ ะเบมเบอร์รี่รสเปรี้ยว (12/20)

Flan casero con Nata (195++)
Homemade caramel flan
ปิดท้ายด้วยฟลานโฮมเมดที่มีความหวานและขมของคาราเมลบาลานซ์กันกับความหอมมันของวิปปิ้งครีมได้ลงตัว (13/20)

รายการเครื่องดื่มในมื้อนี้

ราคา 4,232 บาท

ภายในออกแบบมาในสไตล์ Taberna หรือร้านเหล้าของสเปนให้บรรยากาศที่เป็นกันเองแต่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก

เจ้าของร้านคือเชฟ Alberto Izard เป็นหนึ่งในเชฟผู้มีประสบการณ์ในห้องอาหารสเปนชั้นสูงมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย เขาเริ่มต้นช่วยเหลือคุณแม่เตรียมอาหารในห้องครัวเฉกเช่นเดียวกับเด็ก ๆ ชาวสเปนคนอื่น ๆ จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 14 ปีเขาได้เข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนการอาหารชั้นนำในกรุง Madrid อย่าง Escuela de Hosteleria y Turismo อยู่นาน 5 ปี สำหรับเส้นทางเชฟมืออาชีพเขาเริ่มต้นทำงานที่ห้องอาหาร Castello 9 ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมกับห้องอาหาร Cenador de Salvador (1 MICHELIN Star) เพื่อฝึกฝนฝีมือกับห้องอาหารระดับสูง ต่อมาเขาย้ายมาทำงานเป็นเชฟที่โรงแรม Hotel Melia Madrid Princesa อยู่นานถึง 10 ปีควบคู่ไปกับการรับงานเสริมที่ห้องอาหาร Santceloni (2 MICHELIN Stars) อยู่ 3 ปีและห้องอาหาร Coque (1 MICHELIN Star ในขณะนั้น) อีก 5 ปี เมื่อถึงจุดอิ่มตัวเชฟ Alberto ตัดสินใจเปลี่ยนมาร่วมงานกับบริษัท Catering ชื่อดังในเครือ Pastelerias Mallorca ทั้งยังมีส่วนร่วมในการออกแบบอาหารแบบพร้อมรับประทานเพื่อวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของประเทศสเปนอย่าง Mercadona อีกด้วย

หลังจากนั้้นเชฟ Alberto เลือกที่จะเดินทางมายังเอเชียและสิ้นสุดการเดินทางที่ประเทศไทยโดยเขารับงานเป็นเชฟให้กับห้องอาหารและโรงแรมชั้นนำมากมายทั้งในกรุงเทพและเชียงใหม่ก่อนจะเดินตามความฝันในการเปิดห้องอาหารเล็ก ๆ เป็นของตัวเองขึ้นและใช้ชื่อว่า El Tapeo ตัวร้านได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมก่อนจะย้ายมาเปิดใหม่ ณ ทำเลปัจจุบัน นอกจากนี้เชฟ Alberto ยังมีห้องอาหารในความควบคุมอีกหนึ่งแห่งคือร้าน Paella House ณ ซอยสุขุมวิท 26 นั่นเอง

ลูกค้าสามารถเลือกชิมได้อาหารหลากหลายหมวดหมู่ได้ตามใจชอบ ราคาอาหารจัดว่าสมเหตุสมผลและเข้าถึงง่าย รายการไวน์มีให้เลือกสรรกันพอประมาณ หากใครต้องการนั่งในห้องปรับอากาศเราขอแนะนำให้โทรมาจองโต๊ะกันก่อนล่วงหน้าเพราะที่นั่งในร้านมีค่อนข้างจำกัด

ลานกว้างด้านหน้าเหมาะกับการนัดเพื่อน ๆ มานั่งคุยกันช่วงเย็นหลังเลิกงาน ส่วนชั้นสองให้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

ตัวร้านมองจากด้านหน้ามีลักษณะเป็นบ้านสีขาว 2 ชั้น