หน้าแรก » 🇹🇭 Sugar Blues – ชูก้า บลูส์
Visit: August 9, 2023
🇹🇭 Sugar Blues - ชูก้า บลูส์
👨🏻🍳 Chef Yossakorn (Chef Kamp) - เชฟยศกร (เชฟแคมป์)
69/19 ซอยทวีวัฒนา 9, แขวงทวีวัฒนา, เขตทวีวัฒนา, กรุงเทพ 10170
Tel: 083-029-0284

Cuisine
🍴 Modern Cuisine - อาหารโมเดิร์น
Country
Thailand
MICHELIN Guide
None
Score
Price
บทความในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ย่านทวีวัฒนา เชฟแคมป์เจ้าของร้านอาศัยประสบการณ์จากโรงแรมชั้นนำในประเทศไทยอาทิ Shangri-La, Siam Kempinski Hotel และ W Bangkok รวมกันกว่า 7 ปีก่อนจะตัดสินใจออกมาเปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ เป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า Sugar Blues ซึ่งถึงผู้ที่ติดรสชาติหวาน หลังจากผ่านมาได้ 2 ปีเชฟแคมป์จึงตัดสินใจเปลี่ยนคอนเซปร้านมาเป็นอาหารรูปแบบ Chef’s Table โดยเปลี่ยนรายการอาหารใหม่ออกมาในทุก ๆ 3 เดือน ตัวร้านมองจากภายนอกเป็นอาคารชั้นเดียวสีดำสนิท ภายในตกแต่งให้มีมุมถ่ายรูปแอบซ่อนอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปรับอากาศหรือพื้นที่เอ้าท์ดอร์ด้านนอกก็ให้ความรู้สึกชิล ๆ ได้ไม่ต่างกัน





Price :
1,650+ THB
Parking :
จอดข้างร้าน
Operating Time :
12.00, 19.00
Dress Code :
Casual
Score
อาหาร :
ราคา :
เทคนิค :
อัตลักษณ์ :
บรรยากาศ :
บริการ :
ไวน์ :
Map
📃 SEASON 4 - 9 COURSES (1,650+)

Sugar Blues – ชูก้า บลูส์
Modern Cuisine – อาหารโมเดิร์น
Chef Yossakorn (Chef Kamp) – เชฟยศกร (เชฟแคมป์)

บทความในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ย่านทวีวัฒนา

Starter
Seasonal Fruit / Dried Fish / Strawberry Caviar
เริ่มต้นด้วยคอร์สที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลไม้รถเข็น เชฟใช้แตงโม แคนตาลูปที่ Infused ด้วยน้ำซับซ่า และสับปะรดหั่นเป็นชิ้นมาวางเรียงกัน นอกจากนี้ยังมีความเปรี้ยวที่ได้จากสตรอว์เบอร์รี่คาเวียร์และความหอมของปลาแห้ง เพิ่มมิติความกรอบด้วยแผ่นกรอบวางสลับชั้นกันกับผลไม้ต่าง ๆ

Appetizer
Sago / Oyster Mousse / Bean Sprout / Oyster / Scallop / Mussels
จานนี้เชฟได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูหอยทอดโดยใช้หอย 3 ชนิดคือหอยนางรม หอยเชลล์ และหอยแมลงภู่วางสลับมากับมูสหอยนางรมและถั่วงอก ด้านล่างคือแป้งสาคูทอดกรอบ องค์ประกอบทั้งหมดปรุงรสด้วยเจลซอสหอยทอดรสจัดจ้านด้านบน

Salad
Beetroot / Lettuce / Red Radish / Cucumber / Ranch Dressing / Honey Carviar / Scallop / Sour Cream Sauce / Herb Olil
คอร์สสลัดประกอบขึ้นจากผักหลากหลายชนิดเช่นผักกาดคอส บีทรูท แตงกวา ด้านล่างเป็นน้ำเดรซซิ่งที่ให้รสชาติเปรี้ยวจับคู่กับซอสซาวครีมและความฉุนน้ำมันสมุนไพรเพื่อกันเลี่ยน นอกจากนี้ยังมีหอยเชลล์ที่จี่มาสุกกำลังดีเสิร์ฟมาด้วยกัน

Soup
Corn Soup / Corn / White Toast
คอร์สนี้เชฟได้รับแรงบันดาลใจมาจากข้าวโพดคลุกเนย องค์ประกอบตรงกลางคือข้าวโพดหวานจากจังหวัดราชบุรีและครีมรองด้วยขนมปังโทสต์โฮมเมด

Soup
Corn Soup / Corn / White Toast
จากนั้นพนักงานจะเทราดซุปข้าวโพดอุ่น ๆ ลงไปรอบ ๆ จานเป็นอันพร้อมชิม

Drink
Apple / Honey / Rose / Lime
ล้างปากด้วยน้ำที่มีรสเปรี้ยวหวานจากแอปเปิ้ล มะนาว และน้ำผึ้ง ผสมผสานกันไปกับความหอมของดอกกุหลาบ

1st Main Course
Spaghetti / Soft Shell Grab / Chicken Roulade / Spinach / Shrimp Foam
เมนคอร์สจานแรกคือสปาเก็ตตี้ที่เชฟเตรียมเองเสิร์ฟมากับซอสที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูกุ้งถังให้รสชาติและกลิ่นอายทะเลที่เข้มข้น ข้างกันคือปูนิ่มทอดกรอบและ Roulade ไก่ที่พันม้วนมารอบ ๆ ผักปวยเล้งอีกทีหนึ่ง

2nd Main Course
Short Rib / Pickled / Potato Mille Feuille / Grilled Onion / Homemade BBQ Sauce / Beef Sauce
เมนคอร์สจานที่สองลูกค้าสามารถเลือกได้ระหว่างเนื้อซี่โครงที่ผ่านการรมควันด้วยไม้ลำไยนานถึว 15 ชั่วโมง เชฟเสิร์ฟมากับซอสบาบีคิวเกรวี่ ส่วนข้าง ๆ คือหอมใหญ่จี่ แตงกวาดอง และมิลเฟยมันฝรั่งกรอบ ๆ

2nd Main Course
Smoked Duck / Pickled / Potato Mille Feuille / Grilled Onion / Homemade BBQ Sauce / Berry Sauce
เป็ดที่เชฟใช้กระบวนการเตรียมถึง 3 วันโดยเริ่มต้นจากการนำไปหมักแล้วต้มกับใบชาต่อ จากนั้นจบด้วยการนำไปรมควันนานกับไม้ลำไยถึง 5 ชั่วโมง เชฟเสิร์ฟมากับซอสบาบีคิวแบะซอสเบอร์รี่รสเปรี้ยวรวมไปถึงองค์ประกอบเคียงที่คล้ายกันกับอีกจานหนึ่ง

Sorbet
Lime Sorbet / Pistachio
ล้างปากด้วยซอร์เบท์มะนาวที่มีความกรอบของถั่วพิสตาชิโอ้

Dessert
Vanilla Mousse / Passion Fruit Compote / White Chocolate
ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยขนมหวานอย่างวานิลลามูสเคลือบผิวชั้นนอกด้วยไวท์ช็อกโกแลต ตรงกลางคือกอมโปตเสาวรสรสเปรี้ยว

สำหรับ Season 4 นี้เชฟแคมป์อาศัยแรงบันดาลใจในช่วงวัยเด็กซึ่งก็คือช่วงประมาณปี 1990-2000 ในการรังสรรค์เซ็ตเมนูจำนวน 9 คอร์สในราคาเพียง 1,650+ บาท

Table Setting

ภายในตกแต่งให้มีมุมถ่ายรูปแอบซ่อนอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปรับอากาศหรือพื้นที่เอ้าท์ดอร์ด้านนอกก็ให้ความรู้สึกชิล ๆ ได้ไม่ต่างกัน

เชฟแคมป์เจ้าของร้านอาศัยประสบการณ์จากโรงแรมชั้นนำในประเทศไทยอาทิ Shangri-La, Siam Kempinski Hotel และ W Bangkok รวมกันกว่า 7 ปีก่อนจะตัดสินใจออกมาเปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ เป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า Sugar Blues ซึ่งถึงผู้ที่ติดรสชาติหวาน หลังจากผ่านมาได้ 2 ปีเชฟแคมป์จึงตัดสินใจเปลี่ยนคอนเซปร้านมาเป็นอาหารรูปแบบ Chef’s Table โดยเปลี่ยนรายการอาหารใหม่ออกมาในทุก ๆ 3 เดือน