Visit: February 24, 2024

🇹🇭 ADHOC - แอดฮอค

👨🏻‍🍳 Chef Pitchakorn Ramabut (Chef Pop) - เชฟพิชชากร รามบุตร (เชฟป็อบ)

36/22 ซอยพร้อมศรี 1, สุขุมวิท 49 กรุงเทพมหานคร 10110

Tel: 065-143-1111

Cuisine

🍴 Thai Contemporary - อาหารไทยร่วมสมัย

Country

Thailand

MICHELIN Guide

None

Score

15/20

Price

3/5
          

🎗 ADHOC เป็นห้องอาหารสไตล์ Private Dining ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ลูกค้าที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถนำรถไปจอดได้ที่อาคาร Biohouse และนำบัตรมาแสตมป์ที่ร้านฟรี ตัวร้านทาด้วยสีดำดูสุขุมและเรียบหรู ถึงแม้มองจากด้านหน้าอาจมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ด้านในมีการจัดแบ่งส่วนที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม พื้นที่ชั้นล่างมีลักษณะเป็นโต๊ะยาวพร้อมกับเพดานสูงโปร่งสำหรับรองรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ ข้าง ๆ กันเป็นห้องครัวแบบกึ่งเปิดทำให้ลูกค้าที่นั่งบริเวณนี้สามารถชมทีมเชฟจัดเตรียมอาหารได้ตลอดเวลา บริเวณชั้นสองและสามถูกจัดเตรียมไว้สำหรับต้อนรับลูกค้ากลุ่มเล็กขนาด 2-4 คนโดยมีมุมสวย ๆ มากมายให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปได้เก็บภาพกันอย่างจุใจ

          
🎗 เชฟพิชชากร รามบุตร หรือเชฟป็อบ เติบโตมาในครอบครัวโดยมีแรงบันดาลใจการเตรียมอาหารมาจากคุณย่าและคุณยาย หลังจากเลือกเส้นทางสายอาชีพเชฟเธอมีโอกาสร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำรวมไปถึงเชฟระดับ MICHELIN Star อย่างเชฟหนุ่ม-ธนินทร อีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศมาแล้วมากมาย รูปแบบการนำเสนออาหารของเธอที่ห้องอาหาร ADHOC คือการหยิบยกวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมาผสมผสานกับเมนูพื้นถิ่นที่เราคุ้นเคยกันดีโดยปรับรูปแบบการนำเสนอเสียใหม่ให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เธอยังสามารถใส่อัตลักษณ์ของตัวเองลงไปในอาหารแต่ละจานได้อย่างน่าประทับใจ ADHOC จัดเสิร์ฟเซ็ตเมนูรูปแบบเดียวในราคา 3,900++ ต่อคนโดยมีรายการ Signature Dish สำหรับ Add-on เพิ่มเติมเป็นทางเลือกได้อีก 2 จาน รายการไวน์ได้ถูกคัดเลือกเพื่อให้สามารถจับคู่กับอาหารไทยได้อย่างลงตัว ส่วนคอร์สที่น่าสนใจอย่างเช่น

✨ TAI-PAO CLAMS
Smoked Dry fish | Longan | Local Seaweed | Som-Sa Dressing
คอร์สนี้เชฟป็อบอาศัยแรงบันดาลใจมาจากเมนู “แสร้งว่า“ ในหนังสือตำราแม่ครัวหัวป่าก์ของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ โดยเลือกใช้หอยท้ายเภาซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบคุณภาพสูงของไทยที่หาชิมได้เพียงช่วงสั้น ๆ ในแต่ละปีเท่านั้นนำมา Slow-cooked จนได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ นอกจากนี้เชฟยังตั้งใจนำเสนอความหลากหลายทางรสชาติของน้ำ Dressing ที่ประกอบไปด้วยองค์ประกอบอันหลากหลายตั้งแต่ปลาเนื้ออ่อนแห้งที่นำมารมควัน ความหวานของลำไยและชมพู่ ความเค็มของสาฟร่ายพวงองุ่น และความเปรี้ยวของส้มซ่า ทั้งหมดนำเสนอมาในรูปแบบของกรานิต้าช่วยเรียกความสดชื่นได้อย่างน่าประทับใจ (15/20)

✨ GOBY
House-made bun | Thai Tabasco | Pak Paew | Assorted pickles
เมนู ”สะเต๊ะ“ จานนี้เชฟป็อบได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปยังประเทศมาเซียและพบเจอกับเมนูสเต๊ะที่มีขายกันริมทาง เชฟเลือกใช้ปลาบู่นำไปหมักกับโยเกิร์ตและเครื่องเทศควบคู่กันไปกับอโรมาของอโรมาหอม ๆ ของสมุนไพรอย่างลูกผักชีและยี่หร่า เนื้อสัมผัสของชิ้นปลามีความเฟิร์มเล็กน้อย เชฟยังจับคู่กับซอสสะเต๊ะที่เตรียมขึ้นเองให้มีรสชาติที่เข้มข้นหอมมัน ด้านบนท็อปด้วยองค์ประกอบของน้ำอาจาดที่ได้จากการนำผักไปดองกับน้ำส้มสายชูมะพร้าวซึ่งไม่มีกลิ่นฉุน ยังมีความเค็มเบา ๆ ของคาเวียร์หัวหิน สุดท้ายคือขนมปังที่ใช้เวลาการเตรียมถึง 2 คืนแล้วย่างจนกรอบพอจับคู่มากับซอสพริกที่เชฟนิยามว่าเป็น Thai Tabasco นั่นเอง (15/20)

✨ CORAL TROUT
Cashew nut | Dried Shrimp | Herbs
Pork neck | Pineapple | Southern Yellow Curry
Yellow Steamed Ou-Doi Rice
ปลากะรังจุดฟ้าที่ผ่านการจี่บนกระทะเสิร์ฟมาคู่กันกับซอส ”แกงเหลืองสับปะรดภูแล“ สูตรทางใต้ เชฟเพิ่มมิติทางรสชาติด้วยการใส่คอหมูหวานเนื้อนุ่มฉ่ำวางลงไปสลับกันกับชิ้นปลา นอกจากนี้ ยังมีความกรอบที่ได้จากสับปะรดหั่นเต๋า เชฟแนะนำให้รัยประทานกับข้าวหมกที่เตรียมมาจากข้าวอูดอยจากภาคเหนือ ข้าง ๆ คือกันคือ ”น้ำพริกหัวครก” รสชาติจัดจ้านจับคู่มากับผักและผลไม้เคียง นอกจากนี้ยังมีใบผักกูดทอดเสิร์ฟมาคู่กันกับจักจั่นทะเลที่ทอดมาได้อย่างพอดิบพอดีคือมีความกรอบ เคี้ยวง่าย และไม่อมน้ำมัน (15/20)

🎗 เราเคยแวะมาชิมเซ็ตเมนูเดิมของ ADHOC เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วและพบว่าเซ็ตเมนูชุดปัจจุบันได้พัฒนาต่อยอดจากเดิมไปอีกขั้นโดยเฉพาะอาหารตานหลักต่าง ๆ ที่เปลี่ยนจากสำรับมาเป็นอาหารทีละจานที่ถูกออกแบบและเรียบเรียงรสชาติมาได้อย่างพอเหมาะพอดี ราคาอาหารจัดว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพวัตถุดิบและเทคนิคการปรุง ก่อนกลับอย่าลืมแวะทักทายและพูดคุยกับเชฟป็อบเนื่องจากเธอต้องการฟังความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อพัฒนาตัวเองและอาหารของเธอได้ออกมาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในทุก ๆ ครั้ง

Price :

3,900++ THB/p

Parking :

จอดรถที่อาคาร Biohouse

Operating Time :

17.00-23.00

Dress Code :

Casual

Score

👍 หนึ่งในห้องอาหารไทยร่วมสมัยระดับแนวหน้าที่นำเสนอเมนูรสเลิศในรูปแบบที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

อาหาร :

15

ราคา :

3/5

เทคนิค :

3/5

อัตลักษณ์ :

3/5

บรรยากาศ :

3/5

บริการ :

4/5

ไวน์ :

2/5

Map

📃 9-COURSE TASTING MENU (3,900++)

          
W. TAWEE FARM PORK
Quail Egg | House-made Chili Sauce | Bun

BANANA SHRIMP
Shrimp Paste Oil | Shrimp Chin | Herbs

TAI-PAO CLAMS
Smoked Dry fish | Longan | Local Seaweed | Som-Sa Dressing

GOBY
House-made bun | Thai Tabasco | Pak Paew | Assorted pickles

BLUE CRAB
Thai Mackerel | Herbs | Curry Paste Rice | Southern Bu-Do Sauce

TAPI RIVER PRAWN
Egg Tofu | Hua Hin Caviar | Sam Kler Soup

THAI WAGYU
Bamboo shoots | Yum Beans | Khao Tod | Bai yanang sauce

REFRESHING

CORAL TROUT
Cashew nut | Dried Shrimp | Herbs
Pork neck | Pineapple | Southern Yellow Curry
Yellow Steamed Ou-Doi Rice

MAIN DESSERT
Smoked Milk Ice Cream | Egg Cake

PETIT FOUR

📃 SIGNATURE DISHES TO BE ADDED ON

LON KEM BAK NUT (390++)

THAI CRAB OMELETTE (790++)

🇹🇭 ADHOC – แอดฮอค

🍴 Thai Contemporary – อาหารไทยร่วมสมัย

👨🏻‍🍳 Chef Pitchakorn Ramabut (Chef Pop) – เชฟพิชชากร รามบุตร (เชฟป็อบ)

🎗 ADHOC เป็นห้องอาหารสไตล์ Private Dining ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ลูกค้าที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถนำรถไปจอดได้ที่อาคาร Biohouse และนำบัตรมาแสตมป์ที่ร้านฟรี

W. TAWEE FARM PORK
Quail Egg | House-made Chili Sauce | Bun

เริ่มต้นคอร์สแรกด้วย ”ไข่กระทะ“ ที่เชฟได้ป็อบได้รับแรงบันดาลใจมาจากทริปที่จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่น เชฟนำขนมปังทาด้วยซอสพริกที่เราคุ้นเคยกันในเมนูไข่กระทะ นอกจากนี้ยังมีเบคอนที่เชฟเตรียมมาจากหมูส่วนสามชั้นของ ว. ทวีฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มหมูไบโอไดนามิคแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่น ด้านบนท็อปด้วยไข่นกกระทาที่จะไหลเยิ้มมาช่วยเชื่อมแร่ละองค์ประกอบเข้าด้วยกันในขณะที่เคี้ยว (15/20)

BANANA SHRIMP
Shrimp Paste Oil | Shrimp Chin | Herbs

”ก้อยกุ้ง“ ประกอบไปด้วยสองคำจิ๋วเริ่มต้นที่ทาร์ตบางกรอบที่บรรจุเนื้อกุ้งปรุงสุก อีกฝั่งหนึ่งคือส่วนของคางกุ้งเสิร์ฟมากับซอสหอมมันเชฟที่เตรียมมาจากเปลือกกุ้งและส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ในการเสิร์ฟ ด้านบนท็อปด้วยคาเวียร์ช่วยเพิ่มกลิ่นอายของทะเลได้อย่างลงตัว (15/20)

จากนั้นล้างปากด้วยเครื่องดื่ม ”คอมบุฉะ“ ที่มีรสเปรี้ยวของเสาวรส (13/20)

TAI-PAO CLAMS
Smoked Dry fish | Longan | Local Seaweed | Som-Sa Dressing

เชฟป็อบอาศัยแรงบันดาลใจมาจากเมนู “แสร้งว่า“ ในหนังสือตำราแม่ครัวหัวป่าก์ของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ โดยเลือกใช้หอยท้ายเภาซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบคุณภาพสูงของไทยที่หาชิมได้เพียงช่วงสั้น ๆ ในแต่ละปีเท่านั้นนำมา Slow-cooked จนได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ นอกจากนี้เชฟยังตั้งใจนำเสนอความหลากหลายทางรสชาติของน้ำ Dressing ที่ประกอบไปด้วยองค์ประกอบอันหลากหลายตั้งแต่ปลาเนื้ออ่อนแห้งที่นำมารมควัน ความหวานของลำไยและชมพู่ ความเค็มของสาฟร่ายพวงองุ่น และความเปรี้ยวของส้มซ่า ทั้งหมดนำเสนอมาในรูปแบบของกรานิต้าช่วยเรียกความสดชื่นได้อย่างน่าประทับใจ (15/20)

LON KEM BAK NUT (390++)

”หลนเค็มบักนัด“ ได้จากการนำเนื้อกุ้งมาทำเป็นหลนกับหัวกะทิที่เตรียมขึ้นมาเองแบบ In-house จนได้ความความหอม มัน ครีมมี่ที่พอเหมาะ เชฟเลือกใช้ความเปรี้ยวของบักนักหรือสับปะรด ด้านนอกห่อด้วยชิ้นขนมเบื้องบางกรอบที่เตรียมขึ้นมาจากแป้งถั่วเขียวท็อปด้วยชิ้นสับปะรดและคาเวียร์จากฟาร์มในอำเภอหัวหิน (15/20)

GOBY
House-made bun | Thai Tabasco | Pak Paew | Assorted pickles

เมนู ”สะเต๊ะ“ จานนี้เชฟป็อบได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปยังประเทศมาเซียและพบเจอกับเมนูสเต๊ะที่มีขายกันริมทาง เชฟเลือกใช้ปลาบู่นำไปหมักกับโยเกิร์ตและเครื่องเทศควบคู่กันไปกับอโรมาของอโรมาหอม ๆ ของสมุนไพรอย่างลูกผักชีและยี่หร่า เนื้อสัมผัสของชิ้นปลามีความเฟิร์มเล็กน้อย เชฟยังจับคู่กับซอสสะเต๊ะที่เตรียมขึ้นเองให้มีรสชาติที่เข้มข้นหอมมัน ด้านบนท็อปด้วยองค์ประกอบของน้ำอาจาดที่ได้จากการนำผักไปดองกับน้ำส้มสายชูมะพร้าวซึ่งไม่มีกลิ่นฉุน ยังมีความเค็มเบา ๆ ของคาเวียร์หัวหิน สุดท้ายคือขนมปังที่ใช้เวลาการเตรียมถึง 2 คืนแล้วย่างจนกรอบพอจับคู่มากับซอสพริกที่เชฟนิยามว่าเป็น Thai Tabasco นั่นเอง (15/20)

BLUE CRAB
Thai Mackerel | Herbs | Curry Paste Rice | Southern Bu-Do Sauce

คอร์สนี้เชฟป็อบได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณยายซึ่งเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช เชฟนำเสนอเมนู ”ข้าวยำ“ โดยนำข้าวหอมมะลิจากจังหวัดยโสธรไปคลุกกับเครื่องแกงใต้ นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบของน้ำบูดูโฮมเมด สมุนไพร และผัดสดต่าง ๆ รวมกันถึง 12 ชนิดอย่างเช่นดอกดาหลา ใบพาโหม ใบไชยา นอกจากนี้ยังมีความหวานที่ได้จากปูม้าและความเค็มอันกลมกล่อมของปลาทูอีกด้วย (14/20)

BLUE CRAB
Thai Mackerel | Herbs | Curry Paste Rice | Southern Bu-Do Sauce

สุดท้ายคือองค์ประกอบของหนังไก่กรอบให้รสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว (14/20)

TAPI RIVER PRAWN
Egg Tofu | Hua Hin Caviar | Sam Kler Soup

เชฟนำเสนอจาน ”ต้มแกง“ กุ้งแม่น้ำจากแม่น้ำตาปีจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้เนื้อสัมผัสที่กรอบ เด้ง สู้ฟันนิด ๆ จากนั้นห่อด้วยแผ่นแป้งถั่วเขียวสร้างมิติทางเนื้อสัมผัสที่ดี (15/20)

TAPI RIVER PRAWN
Egg Tofu | Hua Hin Caviar | Sam Kler Soup

องค์ประกอบด้านบนคือคาเวียร์จากอำเภอหัวหิน ด้านล่างรองด้วยไข่ตุ๋นที่เตรียมมาจากเต้าหู้ไข่จับคู่กับซุปน้ำมะพร้าวหอมสดที่เข้ากันดีกับไข่ตุ๋นมาก ๆ (15/20)

THAI WAGYU
Bamboo shoots | Yum Beans | Khao Tod | Bai yanang sauce

”ซั่วเนื้อ” ประกอบขึ้นจากเนื้อวัวไทยวากิวเสิร์ฟมา 2 ส่วนคือสันในที่ผ่านการจี่บนกระทะและส่วนเนื้อซี่โครงที่ผ่านการหมักและรทควันจนคล้ายกับแฮมหรือเบคอน ฟเสิร์ฟมาคู่กันกับมันแกวกรอบที่ผ่านการดองในน้ำยำใส ตรงกลางคือซุบหน่อไม้ ข้าง ๆ คือข้าวทอดให้ความกรอบนอกหนึบใน จากนั้นพนักงานจะเทราดซอสใบย่านางเข้มข้นลงไป (13/20)

REFRESHING

ล้างปากด้วยกรานิต้าชามะนาวท็อป ด้านล่างคือมะต๋าวหรือลูกชิดอบจนหนึบ นอกจากนี้ยังมีโอ้เอ๋วจากภูเก็ต ด้านบนท็อปด้วยมูสที่เตรียมมาจากโยเกิร์ต ส้ม และน้ำผึ้ง (14/20)

CORAL TROUT
Cashew nut | Dried Shrimp | Herbs
Pork neck | Pineapple | Southern Yellow Curry
Yellow Steamed Ou-Doi Rice

ปลากะรังจุดฟ้าที่ผ่านการจี่บนกระทะเสิร์ฟมาคู่กันกับซอส ”แกงเหลืองสับปะรดภูแล“ สูตรทางใต้ เชฟเพิ่มมิติทางรสชาติด้วยการใส่คอหมูหวานเนื้อนุ่มฉ่ำวางลงไปสลับกันกับชิ้นปลา นอกจากนี้ ยังมีความกรอบที่ได้จากสับปะรดหั่นเต๋า เชฟแนะนำให้รัยประทานกับข้าวหมกที่เตรียมมาจากข้าวอูดอยจากภาคเหนือ ข้าง ๆ คือกันคือ ”น้ำพริกหัวครก” รสชาติจัดจ้านจับคู่มากับผักและผลไม้เคียง นอกจากนี้ยังมีใบผักกูดทอดเสิร์ฟมาคู่กันกับจักจั่นทะเลที่ทอดมาได้อย่างพอดิบพอดีคือมีความกรอบ เคี้ยวง่าย และไม่อมน้ำมัน (15/20)

THAI CRAB OMELETTE (790++)

สำหรับผู้ที่มากัน 3-4 คนสามารถสั่ง ”ไข่เจียวปู“ ที่เชฟป็อบให้เนื้อปูกันมาแบบจุใจ ไข่มีความกรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมัน อย่าลืมแตะซอสพริกศรีราชาที่ทาวร้านทำเองแต้มลงไปด้วย (14/20)

MAIN DESSERT
Smoked Milk Ice Cream | Egg Cake

ของหวานจานหลักเชฟป็อบนำเสนอ ”ไอศกรีมนมสด“ จากฟาร์มสหกรณ์โคนมบ้านบึง จังหวัดชลบุรี นำมาผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ก่อนจะนำไปรมควันจนมีกลิ่นควันฝังอยู่ในไอศกรีม ด้านนอกมีความกรอบที่ได้จากแผ่น Tuile น้ำผึ้ง รอบ ๆ คือผงที่เตรียมมาจากนมเช่นกัน (15/20)

PETIT FOUR

ปิดท้าย Petit Four ประกอบไปด้วยขนมเบื้องชาโคลที่มีความหวานจากไส้ฝอยทอง ถัดมาคือทาร์ตส้มจี๊ดที่ประกอบไปด้วยเคิร์ดส้มจี๊ดรสเปรี้ยวท็อปด้วยส้มสายน้ำผึ้ง ชิ้นที่สามคือช็อกโกแลตจากจังหวัดชุมพร สุดท้ายคือโรตีท็อปด้วยน้ำตาบจากรสเค็มและถั่วมาคาเดเมียจากจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีชาอู่หลงผสมกับโสมเสิร์ฟมาให้อีก 1 แก้วอีกด้วย

🎗 เชฟพิชชากร รามบุตร หรือเชฟป็อบ เติบโตมาในครอบครัวโดยมีแรงบันดาลใจการเตรียมอาหารมาจากคุณย่าและคุณยาย หลังจากเลือกเส้นทางสายอาชีพเชฟเธอมีโอกาสร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำรวมไปถึงเชฟระดับ MICHELIN Star อย่างเชฟหนุ่ม-ธนินทร อีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศมาแล้วมากมาย รูปแบบการนำเสนออาหารของเธอที่ห้องอาหาร ADHOC คือการหยิบยกวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมาผสมผสานกับเมนูพื้นถิ่นที่เราคุ้นเคยกันดีโดยปรับรูปแบบการนำเสนอเสียใหม่ให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เธอยังสามารถใส่อัตลักษณ์ของตัวเองลงไปในอาหารแต่ละจานได้อย่างน่าประทับใจ

ADHOC จัดเสิร์ฟเซ็ตเมนูรูปแบบเดียวในราคา 3,900++ ต่อคนโดยมีรายการ Signature Dish สำหรับ Add-on เพิ่มเติมเป็นทางเลือกได้อีก 2 จาน รายการไวน์ได้ถูกคัดเลือกเพื่อให้สามารถจับคู่กับอาหารไทยได้อย่างลงตัว

ตัวร้านทาด้วยสีดำดูสุขุมและเรียบหรู ถึงแม้มองจากด้านหน้าอาจมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ด้านในมีการจัดแบ่งส่วนที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม

บริเวณชั้นสองและสามถูกจัดเตรียมไว้สำหรับต้อนรับลูกค้ากลุ่มเล็กขนาด 2-4 คนโดยมีมุมสวย ๆ มากมายให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปได้เก็บภาพกันอย่างจุใจ

พื้นที่ชั้นล่างมีลักษณะเป็นโต๊ะยาวพร้อมกับเพดานสูงโปร่งสำหรับรองรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่

ข้าง ๆ กันเป็นห้องครัวแบบกึ่งเปิดทำให้ลูกค้าที่นั่งบริเวณนี้สามารถชมทีมเชฟจัดเตรียมอาหารได้ตลอดเวลา

🎗 เราเคยแวะมาชิมเซ็ตเมนูเดิมของ ADHOC เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วและพบว่าเซ็ตเมนูชุดปัจจุบันได้พัฒนาต่อยอดจากเดิมไปอีกขั้นโดยเฉพาะอาหารตานหลักต่าง ๆ ที่เปลี่ยนจากสำรับมาเป็นอาหารทีละจานที่ถูกออกแบบและเรียบเรียงรสชาติมาได้อย่างพอเหมาะพอดี ราคาอาหารจัดว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพวัตถุดิบและเทคนิคการปรุง ก่อนกลับอย่าลืมแวะทักทายและพูดคุยกับเชฟป็อบเนื่องจากเธอต้องการฟังความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อพัฒนาตัวเองและอาหารของเธอได้ออกมาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในทุก ๆ ครั้ง