หน้าแรก » 🇹🇭 Samlor – สามล้อ
Visit: December 4, 2022
🇹🇭 Samlor - สามล้อ
👨🏻🍳 Chef Napol Jantraget (Chef Jo) & Chef Saki Hoshino - เชฟณพล จันทรเกตุ (เชฟโจ) & เชฟซากิ โฮชิโนะ
1076 ถ.เจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก, กรุงเทพ, 10500, ประเทศไทย
Tel: 064-210-1520
Cuisine
🍴 Thai - อาหารไทย
Country
Thailand
MICHELIN Guide
Bib Gourmand
Score
13/20
Price
[INTRO] หลังจากอิ่มตัวกับการนำเสนออาหารในรูปแบบ Fine Dining เชฟโจและเชฟซากิเลือกที่จะออกมาเปิดห้องอาหารไทยเป็นของตัวเองไม่ไกลจากร้านเดิมที่พวกเขาเคยทำทั้งยังได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากบรรดานักชิมชาวไทยและต่างชาติอีกด้วย
Price :
700-3,000 THB
Parking :
จอดรถที่ River City Bangkok
Operating Time :
Lunch Sat-Sun 12.00-15.00, Dinner Wed-Mon 18.00-23.00, Closed on Tue
Dress Code :
Casual
Score
👍 ร้านอาหารไทยพื้นบ้านย่านเจริญกรุงที่เหมาะกับการนัดเพื่อน ๆ มา Hang Out กันในบรรยากาศสบาย ๆ หลังเลิกงาน
อาหาร :
13
ราคา :
เทคนิค :
อัตลักษณ์ :
บรรยากาศ :
บริการ :
ไวน์ :
Map
📃 À LA CARTE
Samlor – สามล้อ
Bib Gourmand – บิบ กูร์มองด์
Thai – อาหารไทย
Chef Napol Jantraget (Chef Jo) & Chef Saki Hoshino – เชฟณพล จันทรเกตุ (เชฟโจ) & เชฟซากิ โฮชิโนะ
In-House Bao (160++/pc)
Braised Pork in Chinese 5 Spices
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยหมั่นโถวทอดกรอบไม่อมน้ำมัน ตรงกลางสอดไส้หมูตุ๋นนุ่ม ๆ หอมเครื่องพะโล้แตะจมูก (13/20)
Sour Mango Salad (340++)
Crispy Fish, Riped Mango Sauce
ขอแนะนำเมนูที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างยำมะม่วงปลาฟูแต่ในที่นี้เชฟเลือกใช้ปลา Yellow Tail แทนที่ปลาดุกแบบปกติให้ให้เนื้อสัมผัสมีความฟู กรอบ และไม่กระด้าง ทั้งยังไม่มีกลิ่นดินหรือ Earthy Aroma ในแบบที่พบเจอได้บ่อยในปลาดุกอีกด้วย ด้านล่างคือยำมะม่วงที่เชฟแล่มะม่วงดิบเป็นแผ่นแบนบางคล้ายกันกับพาสต้าเส้น Tagliatelle ให้ความกรอบที่พอเหมาะเท่ากันแบบไร้ที่ติ ส่วนน้ำยำก็ทำรสชาติออกมาได้กลมกล่อมจนเราอยากขอเพิ่มกันเลยทีเดียว (14/20)
Duck Larb (380++)
Larb Spice, Toasted Rice
ขาเป็ดทอดคลุกเคล้ากับเครื่องลาบจนได้รสชาติที่จัดจ้านโดยมีความกรอบและหอมของข้าวคั่วมาช่วยเสนิมกันได้อย่างลงตัว (13/20)
Duck Larb (380++)
Larb Spice, Toasted Rice
ลาบเสิร์ฟมากับผักสด
Fried Garlic Pork Jowl (280++)
คอหมูทอดน้ำปลามาอย่างดีจนได้เนื้อสัมผัสเคี้ยวนุ่มรับประทานง่ายตัดกันกับกระเทียมกรอบ แนะนำให้รีบชิมตอนยังร้อน ๆ จะอร่อยที่สุด (13/20)
Stir Fried Squid with Salted Eggs (280++)
หมึกผัดไข่เค็มเป็นจานที่เรายังไม่ประทับใจนัก ถึงแม้เนื้อหมึกจะผัดมาแบบสุกพอดีแต่ไข่เค็มกลับให้เนื้อสัมผัสที่สากไม่ละมุนลิ้นและยังมีรสชาติที่ไม่กลืนกันเป็นเนื้อเดียวทั้งจานเท่าไหร่ (12/20)
Roasted Pork Belly (580++)
Charcoal Grilled Crispy Skin, Garlic, Chilli, 3Kur Jus
หมูสามชั้นย่างถ่านมาแบบหนังกรอบในขณะที่ชั้นไขมันนุ่มฉ่ำแบบลืมอ้วน เชฟคลุกเคล้ามากับพริกกระเทียมและซอสสามเกลอ (13/20)
Smoked Duck Breast (680++)
Chinese 5 Spice
เนื้ออกเป็ดรมควันจนได้เนื้อสัมผัสหนึบแน่นแต่ไร้ซึ่งความกระด้างเสิร์ฟมากับน้ำซอสรสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องพะโล้ จะรับประทานเปล่า ๆ หรือจับคู่กับน้ำจิ้มรสเผ็ดก็เข้ากันได้ดีสุด ๆ (14/20)
Slow Cooked Beef Krapow (380++)
Nong Khai Wagyu Chunk, Fried Thai Basil
เนื้อวัวหนองคายวากิวที่ได้รับการตุ๋นจนนุ่มมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวผัดกับซีอิ๊วจนขลุกขลิกเข้มข้น ด้านบนท็อปด้วยกใบกระเพรากรอบจับคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยมากเลยจริง ๆ (14/20)
“Moo Ping” Smoked Pork Rib (780++)
Jaew Sauce
เมนูหมูปิ้งที่เชฟเปลี่ยนจากเนื้อหมูแบบเสียบไม้มาใช้เป็นซี่โครงหมูรมควันหอม ๆ โรยด้วยข้าวคั่วเสิร์ฟมากับน้ำจิ้มแจ่วรสชาติจัดจ้าน (13/20)
Tom Yum Nam Sai with Tiger Prawn (650++)
ต้มยำกุ้งลายเสือที่นี่เตรียมออกมาโดยตั้งใจให้มีรสชาติกลมกล่อม เนื้อกุ้งลายเสือแน่นไม่แข็งกระด้าง อโรมาหอม ๆ ของต้มยำพุ่งแตะจมูกทันทีที่ตักชิมชวนนีกถึง Comsommé แบบอาหารยุโรปกันเลยทีเดียว (13/20)
Samlor Thai Omelette (280++)
เราได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับไข่เจียวสามล้อซึ่งเป็นเมนูแนะนำประจำร้านมาพอสมควร เชฟเลือกนำเสนอออกมาในรูปแบบกรอบด้านนอกแบบไข่เจียวไทยในขณะที่ตรงกลางมีความนุ่มเป็นโฟมคล้ายกันกับไข่เจียวซูเฟลอย่างฝรั่งเศสเสิร์ฟมาบนข้าวสวยร้อน ๆ ดูน่าสนใจไม่เบา (13/20)
Samlor Thai Omelette (280++)
อย่างไรก็ตามในวันนี้เราพบว่ามีบางส่วนด้านใต้ของไข่เจียวที่ให้เนื้อสัมผัสกระด้างเล็กน้อยไม่เท่ากันทั้งชิ้น (13/20)
Surprise Fried Rice (250++)
Up to chef!
ข้าวผัดตามใจเชฟในวันนี้เราได้ลองชิมข้าวผัดหนำเลี๊ยบหมูสับที่ผัดมาได้ร่วนและแห้งชนิดที่สูสีกับห้องอาหารจีนชั้นดีเลยทีเดียว (14/20)
Mala Noodle (380++)
XO Mala sauce
เมื่อเปิดรายการเมนูออกมาจะพบว่าก๋วยเตี๋ยวหมาล่าผัดแห้งเป็นหนึ่งในเมนูที่ดูแปลกกว่าใคร อย่างไรก็ตามเส้นก๋วยเตี๋ยวมีความนุ่มเกินไปเมื่อเทียบกับความกรอบของผักหลายชนิดในจาน เมื่อเคี้ยว ๆ ไปพบว่าเนื้อสัมผัสของเส้นและผักแต่ละชนิดยังไม่ไล่ระดับกันดีมากนัก ทั้งรสชาติยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร (12/20)
Khanom Chun (280++)
Coconut & Butterfly Pea Thai Mochi, Coconut Ice Cream & Crumble
ขนมขั้นที่ได้รับการตีความใหม่โดยการนำแผ่นแป้งนุ่มหนึบทำมาจากกะทิและดอกอัญชัญมาวางเรียงกันเป็นชั้น ด้านบนท็อปด้วยไอศกรัมกะทิแบะครัมเบิ้ลกรอบ (13/20)
Roti (290++)
Flambe Banana, In-House Condenced Milk, Chocolate Ice Cream
ปิดท้ายด้วยขนมโรตีแป้งหนึบท็อปด้านบนด้วยกล้วยที่ Flambéed กับแสงโสมโดยมีกลิ่นหอมของวานิลลามาเป็นตัวเสริม สุดท้ายคือไอศกรีมช็อกโกแลตจากจังหวัดเชียงใหม่ให้รสชาติที่เข้มข้นโดยไม่มีรสเปรี้ยวมาเจือปนอย่างช็อกโกแลตจากภาคตะวันออกหรือภาคใต้เข้ากันดีกับนมข้นหวานเป็นที่สุด (13/20)
ราคา 14,229.93 บาท (สำหรับ 6 คนและไวน์ 2 ขวด)
ภายในมีบรรยากาศแบบแคชวลสังเกตได้จากผนังปูนเปลือยและโต๊ะไม้เหมาะกับการนัดเพื่อน ๆ มา Hang Out กันหลังเลิกงาน
เคาน์เตอร์สำหรับจัดเตรียมอาหารขนาดใหญ่ถูกจัดให้เป็นมุมดึงดูดสายตาสำหรับทุกคนในร้าน
[THE FOOD] ในปัจจุบันอาหารที่สามล้อนำเสนอมาเฉพาะรูปแบบ À La Carte โดยมีราคาต่อจานอยู่ที่ 120-780++ เว้นแต่เมนูดังอย่างไข่เจียวปูเจ๊โจที่มีราคาอยู่ที่ 2,000++ นอกจากนี้ยังมีรายการพิเศษประจำวันที่เขียนเอาไว้บนกระดานดำ ทุกจานล้วนเป็นเมนูไทยพื้นบ้านที่ได้รับการยกระดับโดยอาศัยเทคนิคสมัยใหม่และวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดี
[THE CHEF] อาหารที่นี่ควบคุมโดยสองเชฟคู่สามี-ภรรยาคือเชฟโจและเชฟซากิ เรื่องราวของทั้งคู่ต้องเล่าย้อนไปในช่วงที่เชฟโจมีอายุได้ 18 ปีและเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลายโดยตัวเขามีอันต้องเดินทางไปศึกษาต่อด้านการท่องเที่ยวเเละบริหารโรงแรมต่อด้วยคอร์สเฉพาะทางด้านอาหารที่ Niagara College ประเทศแคนาดา ระหว่างนั้นเขาพบรักกับเชฟซากิและอาศัยอยู่ที่ประเทศเเคนาดานานกว่า 10 ปีโดยอาศัยรายได้จากการทำงานในร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมกับการเปิดร้านขนมเล็ก ๆ ก่อนจะตัดสินใจกลับมาประเทศไทยเพื่อควบคุมห้องอาหาร 80/20 โดยมีเชฟโจรับผิดชอบเมนูอาหารคาวและเชฟซากิทำหน้าที่จัดเตรียมอาหารหวานทั้งยังสามารถคว้ารางวัล
1 MICHELIN Star มาครองได้สำเร็จอีกด้วย ต่อมาทั้งคู่ได้ออกมาเปิดห้องอาหารสามล้อเป็นของตัวเองขึ้นในย่านเจริญกรุงและมีชื่อเข้าไปติดอยู่ใน MICHELIN Guide ปีล่าสุดเช่นกัน
ส่วนตัวเรานั้นเลือกนั่งบริเวณริมกระจกเพื่อมองดูรถยนต์สัญจรผ่านไปมาก็เพลินตาดีไม่เบา
พื้นที่จัดเตรียมอาหาร
ห้องอาหารสามล้อตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกสี่พระยา ให้สังเกตบริเวณเหนือป้ายร้านจะพบกับรถสามล้อสีแดงขนาดใหญ่
[WHY GO] ความประทับใจโดยรวมในแง่ของรสชาติถือว่าอยู่ในระดับดีกว่ามาตรฐาน ส่วนในแง่ของราคาหลายจานอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมแต่ก็มีบางจานที่ราคาค่อนข้างสูงจนอาจเทียบเท่ากับห้องอาหาร Fine Dining พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสแต่ในช่วงเวลาที่ลูกค้าเยอะ ๆ อาจให้บริการได้ไม่ทั่วถึงนัก สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการลิ้มลองอาหารไทยดีในบรรยากาศแคชวลย่านเจริญกรุงก็สามารถตามไปชิมกันได้ที่ห้องอาหารสามล้อกันได้เลย